ปารีส 29 พ.ย.- คณะผู้เชี่ยวชาญเสนอแนะให้เกรตแบร์ริเออร์รีฟ ซึ่งเป็นแนวปะการังยาวที่สุดในโลก ถูกขึ้นบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลกที่ตกอยู่ในภาวะอันตราย เพราะกำลังได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับมอบหมายจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เตือนเมื่อวันจันทร์ว่า น้ำทะเลที่อุ่นขึ้นและมลพิษทางการเกษตรได้ทำให้แนวปะการังนี้ตกอยู่ในอันตราย และสูญเสียความสามารถในการฟื้นตัว
ยูเนสโกพิจารณาเรื่องจะขึ้นเกรตแบร์ริเออร์รีฟไว้ในบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลกที่ตกอยู่ในภาวะอันตราย หลังจากมีรายงานในปี 2564 แต่ถูกรัฐบาลชุดก่อนของออสเตรเลียโน้มน้าวอย่างหนักให้ระงับไว้ก่อน แม้ว่ามีการเตือนเรื่องเกรตแบร์ริเออร์รีฟเสื่อมโทรมตั้งแต่ปี 2553 และคณะนักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า แนวปะการังฟอกขาวมากถึงร้อยละ 91 เพราะคลื่นความร้อนช่วงฤดูร้อนที่เกิดขึ้นยาวนาน
สมาคมอนุรักษ์ทะเลออสเตรเลียเผยว่า แนวปะการังนี้สร้างงาน 60,000 ตำแหน่ง และสร้างรายได้ให้ออสเตรเลียปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 143,236 ล้านบาท) ด้านนางทันยา พลิเบอร์เช็ค รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมออสเตรเลีย ยอมรับว่า เกรตแบร์ริเออร์รีฟตกอยู่ในอันตราย แต่ไม่จำเป็นต้องถูกเจาะจงเพียงแห่งเดียว เพราะมรดกโลกส่วนใหญ่ทั่วโลกล้วนตกอยู่ในอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งนั้น.-สำนักข่าวไทย