พบมีการซ่อมระบบไฟบนเพดานผับ-ยังไม่ชัดต้นเพลิงหรือไม่

ชลบุรี 5 ส.ค. – ตำรวจเร่งตรวจสาเหตุไฟไหม้ MountainB อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบมีการซ่อมระบบไฟบนเพดาน ต่อเติมอาคารผิดกฎหมาย เรียกสอบเจ้าของร้าน พนักงานช่างไฟแล้ว ยืนยันตัวตนได้ทั้ง 13 ศพ ยังไม่ชัดมีตำรวจเป็นหุ้นส่วนผับ


พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้เมาท์เทนบีผับ (MOUNTAIN B ) ริมถนนสายสุขุมวิท ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เสียชีวิตแล้ว 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ว่าจากกการตรวจสอบภายในอาคารพบไฟไหม้เสียหายทั้งหมดทั้งบนฝ้าเพดานและโครงสร้างอาคารไม่มั่นคงแข็งแรงอาจเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่เข้าไป จึงจำกัดคนเข้าไปภายในเฉพาะเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ส่วนจุดต้นเพลิงกำลังตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดตามหลักวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้นต้องตรวจสอบว่าเกิดจากอะไรนั้นคาดว่าอาจจะเกิดจากถังออกซิเจนหรืออย่างอื่นได้ ส่วนบริเวณหลังคาเกิดควันลุกไหม้ขึ้นมาใหม่ตอนเช้า เพราะมีการกรุชนวนกันเสียงไว้ จึงทำให้ไฟครุขึ้นมาอีกเพราะเป็นวัสดุไวไฟ

จากการสอบปากคำเจ้าของร้านพบว่า มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นร้านอาหารและจำหน่ายสุรากับทางอำเภอสัตหีบ แต่จากการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารพบว่ามีการดัดแปลงอาคารให้เป็นสถานที่ปิด ส่วนทางออกทางหนีไฟยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งแม้จะมีการขออนุญาตแต่มีการต่อเติมก็เข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยสถานที่ทั้ง 3 แห่งเป็นเจ้าของเดียวกัน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจ สภ.พลูตาหลวง เป็นหุ้นส่วนนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด และเจ้าของร้านยังบอกว่าเมื่อวานนี้มีการนำช่างไฟมาซ่อมเกี่ยวกับระบบไฟด้านบนเพดาน ลักษณะเป็นการเดินสายไฟเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ชัดว่าเป็นจุดต้นเพลิงหรือไม่


ส่วนประตูทางเข้า-ออกของผู้ที่มาใช้บริการจะใช้ประตูด้านหน้า ส่วนทางออกด้านหลังและด้านข้างใช้สำหรับพนักงานร้าน โดยผู้ที่มาใช้บริการอาจไม่รู้ว่ามีประตูนี้อยู่ ซึ่งตรวจสอบพบว่าประตูด้านข้างมีการใส่กุญแจไว้ ส่วนประตูด้านหลังมีการนำตู้มากีดขวาง และยังพบว่าเปิดเกินเวลาที่กำหนดและสถานที่แห่งนี้ยังเคยถูกร้องเรียนและจับกุมเรื่องเสียงดัง ยืนยันว่าจะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายหากพยานหลักฐานไปถึง

ส่วนผู้ที่เข้าใช้บริการเมื่อคืนมีประมาณ 60 คน สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมด 13 ราย สามารถยืนยันได้แล้วทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ส่วนผู้บาดเจ็บมีอยู่ในห้องไอซียู 6 ราย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง