ทำเนียบ 22 เม.ย.-ครม. เห็นชอบในหลักการ มาตรการป้องกันการทุจริตการบรรจุบุคคลเคยออกจากราชการ ทำผิดวินัยทุจริตหน้าที่ กลับเข้ารับราชการ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการตามที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำหรับมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการบรรจุบุคคลผู้ซึ่งเคยออกจากราชการเพราะกระทำผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการกลับเข้ารับราชการ เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดตามมาตรการดังกล่าวสามารถกลับเข้ารับราชการได้อีก
สืบเนื่องจากในปัจจุบัน มีผู้กระทําผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการและถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง ได้ขอกลับเข้ารับราชการ เนื่องจากได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ. 2550 ทั้งนี้ พระราชบัญญัติดังกล่าว ล้างแต่เฉพาะโทษเท่านั้น แต่พฤติกรรมการกระทำผิดวินัยไม่ได้ถูกลบล้าง และหากเป็นการบกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจแก่สังคม จะถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้นำเสนอ มาตรการป้องกันการทุริตเกี่ยวกับการบรรจุบุคคลผู้ซึ่งเคยออกจากราชการเพราะกระทำผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการกลับเข้ารับราชการ ต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เพื่อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐเพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ โดยถือว่า เจ้าพนักงานของรัฐที่เคยถูกสั่งให้ออกจากราชการหรือออกจากการทํางานในหน่วยงานของรัฐ เพราะกระทําผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ อันเป็นการกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในการขอกลับเข้ารับราชการหรือกลับเข้าทำงานใหม่ในหน่วยงานของรัฐ และไม่ให้พิจารณารับบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการหรือบรรจุเข้าทำงานในหน่วยงานของรัฐโดยเด็ดขาด
พร้อมกําหนดบทลงโทษสําหรับผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจในการใช้ดุลพินิจรับบรรจุเจ้าพนักงานของรัฐกลับเข้าสู่ระบบราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมหน่วยงานของรัฐทุกประเภทและให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด.-315.-สำนักข่าวไทย