รพ.วชิระภูเก็ต ยันไม่พบผู้ป่วยฝีดาษวานรเพิ่ม

ภูเก็ต 26 ก.ค. – ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ยืนยันยังไม่พบผู้ป่วยฝีดาษวานรเพิ่ม ส่วนกรณีผู้ป่วยชายวัย 40 ปี ที่เข้ารับการรักษาใน รพ.ถลาง ด้วยอาการตุ่มใสขึ้นตามตัว ล่าสุดแพทย์วินิจฉัยว่า น่าจะป่วยเป็นอีสุกอีใส และไม่มีประวัติเชื่อมโยงกับผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษวานรชาวไนจีเรีย


นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เปิดเผยว่า กรณีมีผู้ป่วยชายไทย อายุ 40 ปี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถลาง ด้วยอาการมีตุ่มใสขึ้นตามตัว ล่าสุดจากการวินิจฉัยของทีมแพทย์ คาดป่วยเป็นอีสุกอีใส และไม่มีประวัติเชื่อมโยงกับชายชาวไนจีเรียที่ตรวจพบฝีดาษวานรเป็นรายแรกของไทย อย่างไรก็ตาม เพื่อความชัดเจน แพทย์ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อไวรัสฝีดาษวานร ยังคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดจะทราบผลภายใน 2-3 วันนี้

จากการตรวจพบว่า ชายคนดังกล่าวมีอาการไข้ เป็นผื่น และมีตุ่มใสขึ้นทั่วร่างกาย เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่า อาการดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาการของผู้ป่วยอีสุกอีใส มากกว่าลักษณะของตุ่มที่ติดเชื้อฝีดาษวานร โดยชายคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถลาง ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีประวัติเชื่อมโยงกับเคสชายชาวไนจีเรียที่ยืนยันพบฝีดาษวานรเป็นรายแรกของไทยแต่อย่างใด ล่าสุดแพทย์ได้รับตัวชายคนดังกล่าวย้ายจากโรงพยาบาลถลาง มาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้ว


เช่นเดียวกับ นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ยืนยันยังไม่ได้รับรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษวานรเพิ่ม ล่าสุดมีชายไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษวานรชาวไนจีเรีย เดินทางมาขอรับการตรวจในสถานพยาบาล หลังพบตัวเองมีอาการไข้ ผื่นขึ้นตามตัว ซึ่งการค้นพบชายไทยคนนี้เป็นกลไกการตรวจจับโรคตามระบบสาธารณสุขที่ได้วางไว้ โดยขณะนี้ชายคนดังกล่าวรับการรักษาในโรงพยาบาล และมีการตรวจหาเชื้อ รอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์

อย่างไรก็ตาม การดักจับหาผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษวานร ในการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวไนจีเรียทั้ง 19 คน ก็ไม่พบมีใครติดเชื้อ และล่าสุดในเคสชายไทยคนดังกล่าวก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชายไนจีเรีย หรือเป็นไปตามข่าวลือที่ระบุว่า จ.ภูเก็ต พบหญิงขายบริการที่เป็นคู่ขาของชายไนจีเรียติดเชื้อฝีดาษวานรแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย