ภูเก็ต 22 ก.ค.- จ.ภูเก็ต แถลงรายละเอียดไทม์ไลน์ชายชาวไนจีเรีย วัย 27 ปี ผู้ป่วยฝีดาษวานรรายแรกของไทย ซึ่งล่าสุดผู้ป่วยรายนี้หลบหนีการรักษาออกจากที่พัก อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นพบเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ ต.ค.64 ปัจจุบันอยู่ในไทยเกินเวลาที่ขออนุญาต หรือโอเวอร์สเตย์ จึงอาจเป็นเหตุผลให้หลบหนีการรักษา ขณะที่กรมควบคุมโรคติดตามตัวผู้สัมผัสชายคนดังกล่าวกว่า 100 คน ในจำนวนนี้สัมผัสเสี่ยงสูง 17 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
จ.ภูเก็ต นำโดยนายพิเชษฐ์ ปาณะพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ผกก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างแถลงข้อเท็จจริงประเด็นการตรวจพบผู้ป่วยฝีดาษวานรรายแรกของไทยที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าผู้ป่วย ซึ่งเป็นเพศชายชาวไนจีเรียวัย 27 ปี หลบหนีการรักษาออกจากโรงพยาบาล
ล่าสุด พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กำกับการ ตม.จว.ภูเก็ต ระบุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งติดตามตัวผู้ป่วยรายดังกล่าว แต่ยังไม่พบ คาดว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม ทีมสอบสวนโรคได้มีการติดตามตัวผู้สัมผัสผู้ป่วยรายดังกล่าวมาเข้ารับการตรวจแล้วรวม 154 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีรายใดเข้าข่ายติดเชื้อฝีดาษวานรเพิ่ม ยืนยันว่าขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมโรคได้และอย่าตื่นตระหนก
นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ผู้ป่วยที่ตรวจพบติดเชื้อฝีดาษวานรรายแรกของไทยที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นชายชาวไนจีเรียอายุ 27 ปี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของภูเก็ตเมื่อวันที่ 16ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยลักษณะมีตุ่มใสตามร่างกาย เริ่มจากอวัยวะเพศและลามไปที่ใบหน้า แขนขา มีอาการไข้หนาวสั่น โรงพยาบาลเห็นว่าอาการดังกล่าวเข้าข่ายผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร จึงมีการเห็บตัวอย่างส่งไปตรวจหาเชื้อที่กองระบาดวิทยาสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช และห้องปฏิบัติการ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทั่งผลจากห้องปฏิบัติการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยืนยันว่า เชื้อที่ส่งตรวจเป็นเชื้อฝีดาษวานร เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม หลังจากนั้นกองควบคุมโรคร่วมกับ สสจ.ภูเก็ต ในพื้นที่ จึงออกติดตามตัวผู้มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยรายดังกล่าวในทันที โดยฝีดาษวานรที่พบเป็นสายพันธุ์แอฟริกา หรือเอ 2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง
ระหว่างรอผู้ป่วยชาวไนจีเรียกลับมาพักรอภายในที่พักที่เป็นคอนโดมิเนียมย่านอำเภอกะทู้ เนื่องจากเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบตัวผู้ป่วยรายนี้แล้ว แต่ผู้ป่วยหลบหนีปิดโทรศัพท์มือถือ ทราบว่านั่งแท็กซี่ออกจากคอนโดฯ ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งในป่าตองและหลบหนีออกจากโรงแรมดังกล่าว จนถึงปัจจุบันยังหาตัวไม่พบ
ส่วนการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไปติดตามดูกล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ สองคน เป็นแฟนของผู้ป่วยและเพื่อนชาย 2 คน และติดตามไปยัง รพ.อีก 2 แห่ง ผู้สัมผัสเพิ่มเติมที่เสี่ยงต่ำอีก 1 คน และผู้สัมผัสซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ที่รับผู้ป่วยจากคอนโดฯ ไปป่าตอง ให้มาติดต่อเข้ารับเจาะเลือด และอีกกลุ่มคือกลุ่มร้านซักรีดอีก 9 คน จากย่านสถานบันเทิงอีก 142 คน ไม่พบเชื้อและยังดำเนินการเก็บตัวอย่างในชุมชนเพิ่มเติม ขณะนี้ติดตามบุคคลที่คาดว่าจะสัมผัสมาตรวจเลือด ยังไม่พบใครติดเชื้อเพิ่ม
สำหรับผู้ป่วยรายนี้มีประวัติเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคมปี 64 และไม่เคยมีประวัติเดินทางกลับสู่ประเทศต้นทาง ดังนั้น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้ป่วยคนนี้อาจจะไม่ใช่ผู้ป่วยคนแรก ซึ่งทีมแพทย์ระบุระยะฟักตัวอยู่ที่ 7-21 วัน และสามารถหายได้เอง โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษา และขอให้เชื่อมั่นภูเก็ตมีการเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ดีอย่างเต็มที่ ภูเก็ตยังสามารถมาท่องเที่ยวได้.-สำนักข่าวไทย