สมุทรปราการ 25 เม.ย. – วงจรปิดจับภาพรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ขับอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ก่อนเกิดอุบัติเหตุประมาณครึ่ง ชม. รถขับมาปกติ เปลี่ยนเลนไปมา แต่ไม่มีพฤติกรรมขับขี่หวาดเสียว
ภาพจากกล้องวงจรปิดของกรมทางหลวง จับภาพรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ขับอยู่บนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์สาย 7) ตั้งแต่ กม.ที่ 18 ช่วงเวลาตั้งแต่ 21.59 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุราว 30 นาที โดยลักษณะการขับ ถ้าดูจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่า เป็นการขับมาตามปกติ ไม่ได้ส่ายไปมา ค่อมเลน เปลี่ยนช่องทางจาก 3 ไป 2
ด้าน ดร.กฤษณะ เพ็ญสมบูรณ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง เปิดเผยว่า เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังตั้งแต่ กม.10 พบว่ารถบรรทุกคันที่ชนท้ายมีลักษณะการขับเปลี่ยนเลนไปมาหลายครั้ง จากเลนที่ 2 ไปเลนที่ 3 และกลับไปเลนที่ 2 อีกครั้งจุดถึง กม.23 แต่ไม่มีพฤติกรรมขับขี่หวาดเสียว ส่วนไฟล์ภาพช่วงเกิดเหตุขณะนี้อยู่ระหว่างกู้ไฟล์ภาพวงจรปิด เพื่อส่งพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่สามารถระบุความเร็วของรถในขณะเกิดเหตุได้ชัดเจนและต้องรอผลสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ยืนยันว่าทั้งสภาพพื้นผิวจราจร ไฟเส้นจราจร ไฟส่องสว่าง และป้ายระบุช่องจอดฉุกเฉินทุกจุด รวมทั้งจุดเกิดเหตุ อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นไปตามหลักวิศวกรรมจราจรทุกประการ จึงเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัยจริง
ส่วนจุดที่เกิดเหตุเป็น “จุดจอดรถฉุกเฉิน” ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะกรณีรถเสีย ยางแตก เครื่องยนต์ขัดข้อง หรือผู้ขับขี่มีเหตุฉุกเฉินทางร่างกายเท่านั้น ซึ่งจุดจอดฉุกเฉินดังกล่าวมีความยาวประมาณ 100 เมตร ความกว้าง 5 เมตร ซึ่งกว้างกว่าช่องไหล่ทางปกติของมอเตอร์เวย์ที่กว้างเพียง 2.5 เมตร โดยจุดจอดรถฉุกเฉินสามารถรองรับรถพ่วงขนาดใหญ่ได้ไม่น้อยกว่า 5 คัน จุดจอดรถฉุกเฉินของกรมทางหลวงจึงมีมาตรฐานสากลและปลอดภัย แต่ยอมรับว่า หากมีกรณีที่ผู้ขับขี่รถอื่นสูญเสียการควบคุมหรือหลับในอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้
ทั้งนี้ ทางแขวงฯ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่แขวงฯ และตำรวจทางหลวง คอยเฝ้าระวังตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตลอดแนวถนนมอเตอร์เวย์ หากพบว่ามีผู้มาจอดที่บริเวณจุดจอดฉุกเฉิน ก็ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการจอดพักทั่วไปที่ไม่เข้ากรณีฉุกเฉิน ให้เข้าไปตักเตือนให้ขยับรถออกจากจุดดังกล่าว แต่ถ้าหากไม่เชื่อฟัง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจร ในเรื่องจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งมีโทษปรับ 5,000 บาท
นอกจากนี้ ทางแขวงฯ ได้จัดจุดให้บริการจอดพักรถขนาดเล็กจำนวน 3 จุด ทั้งขาเข้าและขาออกเมือง มีห้องน้ำสะอาดให้บริการครบครัน ได้แก่บริเวณช่วงลาดกระบัง กม.21 ช่วงหนองรี กม.71 และช่วงบ้านประชัน กม.119 รวมทั้งมีจุดให้บริการจอดพักรถขนาดใหญ่จำนวน 1 จุด ซึ่งจุดดังกล่าวมีทั้งห้องน้ำและร้านอาหารให้บริการที่บริเวณ กม.49 เฉลี่ยแล้วจะมีจุดพักรถห่างกันประมาณทุก ๆ 25 กิโลเมตร ซึ่งทั้ง 4 จุดนั้นเป็นจุดพักรถที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากลและสามารถใช้บริการได้ และเตรียมยกระดับมาตรการควบคุมจุดจอดรถฉุกเฉินให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการติดตั้งป้ายจุดจอดรถฉุกเฉิน ที่จะต้องระบุเงื่อนไขของผู้ที่จะมาจอดในบริเวณดังกล่าวว่าต้องเป็นในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น รวมทั้งจะระบุโทษตามกฎหมายที่ได้รับสำหรับผู้ที่ไม่มีเหตุฉุกเฉินแล้วมาจอด ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่จำเป็นต้องจอดที่จุดจอดรถฉุกเฉินจริง ๆ ว่า ควรมีจิตสำนึกที่จะเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อบอกเพื่อนร่วมทางให้ทราบด้วย ถ้าจะจอดเพียงแค่พักรถ ขอให้ไปใช้บริการในจุดที่ทางแขวงฯ ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้เพื่อความปลอดภัย.- 416-สำนักข่าวไทย