กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับลดลง เนื่องจากการตรวจห้องเย็นสินค้าปศุสัตว์ ทำให้หลายห้องเย็นไม่ต้องการรับฝาก ส่งผลให้มีเนื้อหมูออกสู่ตลาดมากขึ้นตั้งแต่ก่อนตรุษจีน ขณะที่นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุ ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับลดเนื่องจากกลไกตลาด
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวถึงผลการตรวจห้องเย็นเก็บสินค้าปศุตว์ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.-1ก.พ. ว่า ตรวจแล้ว 1,261 แห่ง พบจัดเก็บเนื้อหมู 23,187,194.778 กิโลกรัมแล้ว ทำให้หลายห้องเย็นไม่ต้องการรับฝาก จึงส่งผลให้เนื้อหมูออกตลาดมากขึ้น ยืนยันว่า กรมปศุสัตว์จะตรวจสอบให้ครบทุกแห่งทั่วประเทศตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ห่วงใยว่า อาจมีการกักตุนสินค้าเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าและทำให้ที่ผ่านมาราคาเนื้อหมูปรับสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนต่อผู้บริโภค
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับลดลงเนื่องจากกลไกตลาด โดยเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) แจ้งราคาตามรายภาคดังนี้
- ภาคตะวันตก 100 บาท/กิโลกรัม ขายส่งห้างค้าปลีก 160 บาท/กิโลกรัม ขายปลีก 198-200 บาท/กิโลกรัม
- ภาคตะวันออก 102 บาท/กิโลกรัม ขายส่งห้างค้าปลีก 163 บาท/กิโลกรัม ขายปลีก 202-204 บาท/กิโลกรัม
- ภาคอีสาน 102 บาท/กิโลกรัม ขายส่งห้างค้าปลีก 163 บาท/กิโลกรัม ขายปลีก 202-204 บาท/กิโลกรัม
- ภาคเหนือ 104 บาท/กิโลกรัม ขายส่งห้างค้าปลีก 166 บาท/กิโลกรัม ขายปลีก 206-208 บาท/กิโลกรัม
- ภาคใต้ 102 บาท/กิโลกรัม ขายส่งห้างค้าปลีก 163 บาท/กิโลกรัม ขายปลีก 202-204 บาท/กิโลกรัม
นอกจากนี้ในเพจเฟซบุ๊กของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุคำจำกัดความของคำว่า “กักตุนสินค้า” โดยอ้างอิงคำกล่าวของนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์โดยระบุว่า ปลัดกระทรวงพาณิชย์ให้ความกระจ่างเรื่อง “การกักตุน” ไว้อย่างชัดเจนตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการว่า “โดยหลักกฎหมายหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกักตุน ซึ่งหมายถึงการปฏิเสธการจำหน่าย ทั้งที่มีสินค้าและมีผู้ขอซื้อสินค้าเข้ามาแต่ไม่จำหน่าย” โดยสภาพจริงทุกจุดจำหน่ายปลีกทั่วประเทศ มีการบริหารการวางสินค้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกรตลอดช่วงเวลาจำหน่ายได้อย่างไม่ขาดแคลน.-สำนักข่าวไทย