รัฐสภา 1 ก.ย.-นายกฯ เผยกำลังพิจารณาปรับลดหรือเลิกเคอร์ฟิว ยอมรับห่วงคนเที่ยวกลางคืน ให้ผู้ประกอบการหารือศบค. ขอมั่นใจรัฐ-อย.ซื้อ ATK แจกฟรี 8.5 ล้านชุดมีมาตรฐาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 2 โดยกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการวันนี้(1 ก.ย.) เป็นวันแรกว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้นจะทำได้มากขึ้น ส่วนการปรับลดหรือยกเลิกเวลาเคอร์ฟิว กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ให้ผ่านระยะนี้ไปก่อน เพื่อดูว่าตัวเลขจะมากขึ้นหรือไม่
“แต่การเคลื่อนไหวกลางคืนส่วนใหญ่จะไปสถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง ซึ่งในส่วนนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ ผมถึงบอกว่าต้องหารือผู้ประกอบการกลางคืน ผับ บาร์ ซึ่งต้องพูดคุยกันผ่านช่องทางศบค.อยู่แล้ว เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาโดยให้สาธารณสุขและแพทย์ดูแล เพราะนายกฯ สั่งไม่ได้ ตัดสินใจไม่ได้ ถ้าไม่ฟังสาธารณสุข เพราะหากผิดพลาดขึ้นมาก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งที่พูดในสภากันเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ดูเหมือนยังไม่เข้าใจเรื่องการบริหาร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนปัญหาการจัดซื้อชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) 8.5 ล้านชุดจะให้ความมั่นใจประชาชนได้อย่างไร ต้องถามว่ามั่นใจว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาอย.ทำหน้าที่ตรวจสอบยาและเวชภัณฑ์มาโดยตลอด ซึ่ง ATK มีหลายสิบบริษัท โดย อย.พิจารณาตรวจสอบแล้ว และมีใช้ที่ต่างประเทศด้วย
“ที่ผ่านมาอาจมีความผิดพลาดด้านเอกสารถึงต้องปรับใหม่ ซึ่งไม่ได้ปรับเพื่ออำนวยความสะดวกใคร แต่สำคัญคือทำอย่างไรถึงจะได้คุณภาพที่ดีและมีราคาถูกที่สุด ทั้งนี้ ATK 8.5 ล้านชุดนี้ รัฐบาลนำไปแจกจ่ายฟรี ในพื้นที่สีแดงเข้ม ส่วนอื่น ๆ บางคนมีทางเลือกมีเงินก็ซื้อได้ โดยขณะนี้กำลังให้พิจารณาค่าใช้จ่าย ATK ตามสิทธิ และขอให้เข้าใจ เพราะทุกอย่างไม่ง่าย แต่นายกฯ พยายามแก้ตามลำดับ ซึ่งผมก็เสียใจและขอโทษ หากทำให้บางคนไม่พอใจ เพราะเสียใจกับการสูญเสีย เพราะผมก็เคยสูญเสียพ่อแม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าขณะนี้ระบบสาธารณสุขยังรับมือได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่ารับมือได้ ก่อนหน้านี้ต่างชาติก็มาท่องเที่ยวและเข้ามารักษาในประเทศไทย เพราะมั่นใจในระบบสาธารณสุขของเรา แต่วันนี้ต้องเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นโรครุนแรงและรวดเร็วไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงอาจทำให้ขีดความสามารถลดลงบ้าง แต่ก็พัฒนามาเรื่อย ๆ ตามลำดับ
“ทำไมวันนี้ไม่ดูตัวเลขว่ารักษาหายเท่าไหร่ ถ้าเอาแต่ตัวเลขคนป่วยคนตาย ก็ไม่เป็นธรรม ต่อไปจะดูให้ในเรื่องการเคอร์ฟิว การเคลื่อนไหวนั้นไม่สามารถไปห้ามได้ แต่อย่าลืมเป็นปัญหาต้องแก้ซ้ำ ผมไม่โยนความผิดให้ใคร แต่ขอความเป็นธรรมให้รัฐบาลและสาธารณสุขด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย