กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- เกิดเหตุสุนัขพันธุ์ไทยลูกผสม กัดเจ้าของเสียชีวิตอย่างน่าสลดคาบ้าน และไม่มีใครทราบเรื่องกว่า 1 วัน
เมื่อวาน (28 ส.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. ตำรวจ สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุสุนัขกัดคนเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยวิภาวดีรังสิต 42 แยก 18-1ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ในที่เกิดเหตุบริเวณข้างบ้านหน้าประตูห้องครัว พบศพหญิงวัย 61 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกสุนัขขย้ำ มีรอยเขี้ยวที่ลำคอด้านขวา 2 รู คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง
จากการสอบสวนน้องสาวของผู้เสียชีวิตให้การว่า พี่สาวอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวมานาน ไม่มีครอบครัว เลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยลูกผสมเพศผู้ชื่อ “ไอ้เสือ” อายุ 7-8 ปี ปกติก็สนิทคลุกคลีกันกับ “ไอ้เสือ” แต่เมื่อปีที่แล้ว “ไอ้เสือ” บ้าคลั่งกัดพี่สาวที่ใบหน้าจนบาดเจ็บ และยังกัดสุนัขพันธุ์ “พุดเดิ้ล” อีกตัวจนตาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 สิงหาคม ต่อเนื่องวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้พยายามโทรติดต่อพี่สาว แต่ติดต่อไม่ได้ วันนี้จึงเดินทางจากบ้านฝั่งธนบุรีมาหา พร้อมทั้งนำอาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูปมาให้ เพราะปกติจะเดินทางมาดูแลสัปดาห์ละครั้ง เมื่อมาถึงก็พบประตูเหล็กหน้าบ้านล็อก จึงไขกุญแจเปิดเข้าไปเรียกหาพี่สาว แต่ไม่มีคนตอบรับ จึงเดินดูรอบบ้าน กระทั่งพบพี่สาวนอนแน่นิ่ง และมี “ไอ้เสือ” อยู่ข้างๆ เข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว
ด้านนางสาวยุภาพร ปานจำรูญ อายุ 31 ปี คนงานก่อสร้างตรงข้ามที่เกิดเหตุ เผยว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 สิงหาคม ได้ยินเสียงหมาเห่าดังผิดปกติ จากนั้นได้ยินเสียงป้าเจ้าของบ้านร้อง “โอ๊ย!!!!” แต่ตนเองไม่ได้เดินมาดู เนื่องจากที่ผ่านมาสุนัขจะดุและเห่าเวลามีคนแปลกหน้าเดินผ่าน ที่ผ่านมาโดยปกติในช่วงเช้าและเที่ยงจะเห็นผู้เสียชีวิตเดินออกมาอยู่บ่อยๆ แต่ว่าก่อนเกิดเหตุไม่เห็นป้าเดินออกมานอกบ้าน แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปดู และเมื่อพอมองผ่านรั้วเข้าไป จึงเห็นร่างป้านอนนิ่งอยู่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายซึ่งเป็นคนรูปร่างเล็กประกอบกับสุนัขอาจเกิดความเครียดเพราะไม่ได้ออกจากบ้าน จึงอาจสู้แรงสุนัขไม่ไหว ทำให้ถูกสุนัขขย้ำจนเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย