นพ.ยง ห่วงสายพันธุ์เดลตาแพร่เร็ว เร่งฉีดวัคซีนรับมือ

สธ.22 มิ.ย.-“นพ.ยง” แจงให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ ประสิทธิภาพวัคซีนทุกชนิดลดลงเพราะสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไป ต้องรอการพัฒนาวัคซีนเจนเนอเรชั่น 2 เชื่อรับมือได้ ห่วงสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) มากกว่าเบตา (แอฟริกาใต้) เพราะแพร่เร็วกว่าอัลฟา (อังกฤษ) 1.4 เท่า ชี้การรับมือกับสายพันธุ์เดลตาต้องเน้นชะลอโรค ด้วยมาตรการควบคุมโรค ควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีน แม้ประสิทธิภาพจะลดลง


ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของไวรัสโควิดทั่วโลก เดิมเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มาจากอู่ฮั่น อยู่ประมาณ 4-5 เดือน ต่อมาแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์จีที่แพร่เร็วขึ้น และครองทั่วโลก การแพร่ที่เร็วขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้ความรุนแรงของไวรัสมากขึ้น

ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ เป็นสายพันธุ์อังกฤษหรืออัลฟา ที่เริ่มพบ ต.ค.ปี 63 และระบาดเต็มที่ใน ก.พ.และ มี.ค.ปี 64 และจากการศึกษาก็พบว่าความรุนแรงของสายพันธุ์อัลฟา แพร่เร็วถึง 1.7 เท่า และขณะนี้ก็เริ่มพบสายพันธุ์เดลตาหรืออินเดีย โดยของไทยเริ่มพบในแคมป์คนงานก่อสร้างที่หลักสี่ และจากการศึกษาพบว่าสายพันธุ์เดลตาแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ถึง 1.4 เท่า


ศ.นพ.ยง กล่าวว่า ขณะนี้ที่ประเทศอังกฤษสายพันธุ์เดลตา กำลังเข้ามาแพร่ระบาดและแทนที่สายพันธุ์อัลฟาหรือสายพันธุ์อังกฤษดั้งเดิม แต่ความรุนแรงของสายพันธุ์เดลตายังไม่รุนแรง ขณะที่ประสิทธิภาพของวัคซีนทุกบริษัท ต้องยอมรับว่าเหมือนกันหมด ทั่วโลกกำลังเผชิญกลับประสิทธิภาพวัคซีนที่ลดลง เพราะการพัฒนาวัคซีนมีรากฐานมาจากสายพันธุ์เดิมอู่ฮั่น เมื่อไวรัสมีการพัฒนาและกลายพันธุ์ ทำให้ต้องมีการพัฒนาวัคซีนเจเนอร์ชั่น 2 มาเพื่อรองรับสายพันธุ์ของไวรัสที่เปลี่ยนไป คาดว่าจะสามารถพัฒนาแล้วเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ศ.นพ.ยง กล่าวว่า ส่วนโอกาสที่สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จะมายึดครองโลกได้ มีโอกาสน้อย เนื่องจากแม้เชื้อไวรัสหลบภูมิคุ้มกัน มีผลต่อประสิทธิภาพวัคซีน แต่อัตราความรุนแรงยังเท่าเดิม แต่ในส่วนสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จากการศึกษาในสกอตแลนด์ พบว่าประสิทธิของวัคซีน ทั้งแอสตราฯ และไฟเซอร์ ลดลง 10% จากเดิมประสิทธิภาพของไฟเซอร์ อยู่ที่ 90%

ทั้งนี้ เมื่อรับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็มในสายพันธุ์เดลตา พบว่าประสิทธิภาพเหลือ 79 % ขณะที่แอสตราฯ เมื่อรับครบ 2เข็ม เจอสายพันธุ์เดลตา ประสิทธิภาพก็ลดลงเหลือ 60% จากเดิมที่ประสิทธิภาพวัคซีนอยู่ที่ 90% ซึ่งการป้องกันสายพันธุ์เดลตา(อินเดีย) ต้องใช้ภูมิต้านทานสูง ไม่ว่าจะเป็นแอสตราฯ หรือไฟเซอร์ การรับวัคซีน 1 เข็มอาจไม่เพียงพอในการป้องกันโรค เพราะประสิทธิภาพในการป้องกันโรคลดลง 20-30%


ศ.นพ.ยง กล่าวว่า ดังนั้นในการรับมือกับสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ต้องใช้การชะลอการระบาดให้มากที่สุด โดยสายพันธุ์นี้จะค่อยๆ พบในไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 4-5 เดือน ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ช่วยกันทำให้การพบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์นี้ เพิ่มขึ้นแค่ 1% หรือ 2% เท่านั้นและต้องเร่งกวาดล้างโดยเร็ว

ส่วนการรับวัคซีนในเข็มที่ 3 นั้น สามารถรับได้ในวัคซีนชนิดเดียวกันหรือแตกต่างกัน และย้ำว่าการรรับวัคซีนระยะเวลาที่เหมาะสม สามารถกระตุ้นและสร้างภูมิคุ้นได้ถึง 10 เท่า .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”