กรมวิทย์แจงผลศึกษา “วัคซีนไขว้สลับชนิด” ภูมิขึ้นเร็วเพียง 5 สัปดาห์

สำนักข่าวไทย 19 ส.ค.- กรมวิทย์แจงผลศึกษาทดลองประสิทธิภาพสูตรฉีดวัคซีนกับสายพันธุ์เดลตา ในห้องปฏิบัติการระดับ 3 พบวัคซีนไขว้สลับชนิดให้ผลดีสุด และภูมิขึ้นเร็ว เพียง 5 สัปดาห์ รองลงมาแอสตราฯ 2 เข็ม ส่วนการฉีดแบบบูสเตอร์ แอสตราฯ เป็นเข็ม 3 หลังรับซิโนแวค พบให้ผลดีเช่นกัน แต่ไม่สนับสนุนฉีดแอสตราฯ เข็ม 1 และซิโนแวค เข็ม 2

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงผลการศึกษาการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไขว้สลับชนิด ว่า จากการศึกษาทดลอง ตรวจระดับภูมิคุ้มกันของประชาชนอาสาสมัคร จำนวน 125 คน อายุเฉลี่ย 18-60 ปี แบ่งเป็น ชาย 61 คน, หญิง 64 คน ในพื้นที่กทม. และปริมณฑล ในผู้รับวัคซีนแบบซิโนแวค 2 เข็ม, แอสตราเซเนกา 2 เข็ม, ฉีดแบบไขว้ สลับชนิด ซิโนแวค กับแอสตราเวเนกา เมื่อตรวจแบบวัดภูมิคุ้มกัน แอนตี้สไปร์ท (ภูมิคุ้มกันแบบภาพรวม) ไม่ได้มีการจำกัดว่า ไวรัสสายพันธุ์ไหน เพื่อดูสูตรการรับวัคซีน พบว่าผู้ที่รับซิโนแวค 2 เข็ม 117 ไตเตอร์ แอสตราเซเนกา 207 ไตเตอร์ และซิโนแวค เข็ม 1 จากนั้นห่าง 3 สัปดาห์ รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็ม 2 จากนั้นห่าง 2 สัปดาห์ วัดภูมิคุ้มกันขึ้นถึง 716 ไตเตอร์ ทั้งนี้ภูมิคุ้มกันของแต่ละคนไม่เท่ากัน จึงกำหนดเป็นค่าเฉลี่ยกลางที่เกิดขึ้น พบว่า ค่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น พบว่า การฉีดวัคซีนแบบสูตรไขว้สลับชนิดกัน (ซิโนแวค + แอสตราฯ) ให้ภูมิสูงกว่า ซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 6 เท่า และสูงกว่า การรับวัคซีนแอสตาฯ 2 เข็ม ถึง 3 เท่า ส่วนการฉีดวัคซีนแบบบูสเตอร์โดส เป็นซิโนแวค 2 เข็ม แอสตราเซเนกา เป็นเข็ม 3 พบว่า ภูมิคุ้มกันสูงถึง 1127 ไตเตอร์ ทั้งนี้ภูมิที่ขึ้นมีมากกว่าในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ ที่ต้องการภูมิคุ้มกันที่สูงมากกว่าซิโนแวคถึง 10 เท่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการศึกษาในกลุ่มคนบูสเตอร์โดสในเข็ม 3 ที่เป็นไฟเซอร์ คาดว่าในอนาคตจะสามารถดำเนินการได้ การฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ในที่รับเป็นบูสเตอร์โดส ก็เหมือนกับการรับวัคซีนแอสตราเซเนกาทั่วไป มีไข้ ปวดเมื่อตามร่างกาย


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า นอกจากนี้ มีการศึกษาแบบเฉพาะเจาะจงในเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ทางกรมวิทย์ฯ ได้ทดลองในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัย ระดับ 3 ที่มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากนำซีรัม (เลือด) ของอาสาสมัคร ที่รับวัคซีนกับไวรัสเดลตาจริงมาทดลองในหลอดทดลอง ลักษณะของการเจือจาง 10-1000 เท่า และย้อมสีไวรัส เพื่อดูประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อไวรัส โดยยิ่งเจือจางซีรัมมากเท่าไหร่ และเหลือจำนวนไวรัสลดลงครึ่งหนึ่ง ถือว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ โดยพบว่าสูตรวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีค่าเฉลี่ยมีการเจือจางอยู่ที่ 24.28 เท่า, แอสตราเซเนกา+ซิโนแวค อยู่ที่ 25.84 เท่า, แอสตราเซเนกา 2 เข็ม 76.52 เท่า, ซิโนแวค เข็ม 1 และแอสตราเซเนกา เข็ม 2 อยู่ที่ 78.64 เท่า จะเห็นว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการรับวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม ส่วนการการบูสเตอร์โดส ซิโนแวค 2 เข็ม และฉีดแอสตราฯ เป็นเข็ม 3 อยู่ที่ 271.2 เท่า ทั้งนี้จะเห็นว่า วัคซีนสูตรสลับไขว้ชนิดที่เป็นสูตรมาตราไทย การฉีดของไทยในขณะนี้ให้ผลดี มีประสิทธิภาพมากกว่า และใกล้เคียงการรับแอสตราฯ 2 เข็ม แต่ข้อดีคือการฉีดวัคซีนสูตรสลับชนิดนี้ ทำให้ลดระยะเวลาการรับวัคซีนให้สั้นลงได้ภูมิคุ้มกันเร็วขึ้น เพียง 5 สัปดาห์ โดยวัคซีนซิโนแวค เข็ม 1 จากนั้นห่าง 3 สัปดาห์ รับแอสตราฯ เป็นเข็ม 2 จากนั้นห่างอีก 2 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันก็ขึ้นได้ทันที เพราะขณะนี้การระบาดของไทย 95% ในกทม. เป็นไวรัสเดลตา ส่วนในต่างจังหวัด 90% ก็เป็นเดลตา และไม่แนะนำให้รับวัคซีนแอสตราฯ เป็นเข็ม 1 และซิโนแวค เป็นเข็ม 2 เพราะภูมิเท่าซิโนแวค 2 เข็ม

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ในการศึกษาวิจัยทั้งหมดนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าภูมิคุ้มกันจะอยู่นานแค่ไหน เพราะต้องใช้เวลาในการศึกษาพิสูจน์ ส่วนการศึกษาในกลุ่มรับวัคซีนไฟเซอร์ ยังต้องรอให้ครบ 2 สัปดาห์ก่อนจึงจะศึกษาได้ ทั้งนี้ยังย้ำว่าการศึกษาเรื่องภูมิคุ้มกันไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าภูมิจะอยู่ต่อไป เพราะมีปัจจัยธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง กลไกการป้องกันโรค วัคซีนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะวัคซีนจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายจดจำเชื้อ และป้องกันโรค ในอนาคตจะมีการศึกษาวิจัย เรื่องการฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อและชั้นผิวหนัง เพื่อดูปริมาณวัคซีนที่เข้าไปในร่างกาย เพื่อดูการตอบสนองว่าแตกต่างกันหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้