รัฐบาลยันใช้เงินกู้ 5 แสนล้าน ตามแผนงานชัดเจน

ทำเนียบรัฐบาล 29 พ.ค.- โฆษกรัฐบาล ยืนยัน พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท มีกรอบการใช้เงินชัดเจนโปร่งใส รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นั้น พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว มีการกำหนดแผนการใช้เงินกู้อย่างชัดเจน โดยการใช้จ่ายต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ภายใต้แผนงานหรือโครงการตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนด ซึ่งประกอบด้วย 3 แผนงาน ได้แก่

(1) แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข การวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ
(2) แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา หรือชดเชยให้แก่ประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 300,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ช่วยผู้ประกอบอาชีพและผู้ประกอบการ สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง
(3) แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 170,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับแผนงาน/โครงการ เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็น คณะรัฐมนตรีสามารถอนุมัติปรับกรอบวงเงินภายใต้แผนงานหรือโครงการภายใน 3 วัตถุประสงค์นี้ได้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการกำหนดอย่างชัดเจนใน พ.ร.ก.ฉบับนี้ว่า เงินกู้ 5 แสนล้านบาทนี้ จะนำไปใช้เพื่อการอื่นนอกจาก 3 แผนงานดังที่กล่าวมาแล้วไม่ได้อย่างเด็ดขาด จึงขอให้ประชาชนได้มีความมั่นใจถึงเจตนาของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้อย่างแท้จริง และขอให้ประชาชนได้มั่นใจถึงความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินกู้ 5 แสนล้าน และเจตนาของรัฐบาลในการใช้จ่ายเงินกู้นี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการแล้ว จำนวน 287 โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้น 817,223 ล้านบาท และได้มีการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 680,099 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 83.22 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 2563 มีอัตราตัวเลขที่หดตัวในปริมาณที่ดีกว่าที่หลายหน่วยงาน อย่างเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือที่ IMF ได้คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ วงเงินกู้ส่วนที่ยังเหลืออยู่ใน พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลได้เตรียมการที่จะออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งได้รับการอนุมัติในหลักการจาก ครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” และโครงการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอรายละเอียดของโครงการ เพื่อให้ ครม.พิจารณาในระยะต่อไป

นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า “สถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 ในระลอกนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและมีการติดเชื้อเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเตรียมงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบจากการระบาดระลอกนี้ และมีความจำเป็นที่ต้องออก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทนี้ เพื่อให้มีงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ อันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศกลับมาสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน ภายหลังจากการระบาดของ COVID-19 บรรเทาหรือยุติลง”


ทั้งนี้ กรอบวงเงินกู้ 500,000 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก.นี้ เป็นกรอบวงเงินที่เหมาะสมที่จะดำเนินมาตรการทางการคลัง เพื่อดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ช่วยเหลือเยียวยา ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ระลอกนี้ได้อย่างต่อเนื่องกับ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2564-2565 สามารถขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า การออก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทในครั้งนี้ จะส่งผลให้ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 58.56 และยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลัง ซึ่งรัฐบาลได้ระมัดระวังในการบริหารจัดการเงินกู้ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลยังคงมุมมองที่ดีต่อภาคการคลังที่แข็งแกร่งของประเทศไทยด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลด 2 – 5 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลด 2 – 5 องศาเซลเซียส “ยอดดอย-ยอดภู” หนาวจัด ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย