วิป 3 ฝ่ายเห็นพ้องเลื่อนถกแก้ รธน. 256 ไปอีก 1 เดือน

รัฐสภา 8 ม.ค.-วิป 3 ฝ่ายเห็นพ้อง เลื่อนถกแก้ รธน. 256 ไปอีก 1 เดือน เพื่อความรอบคอบ แต่ไม่กระทบกรอบเวลา เพราะต้องรอยืนยันร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ 180 วัน ด้านประธานวิปรัฐบาล รับ ครม.ไม่เสนอร่างประกบ เหตุพรรคร่วมบางพรรคไม่พร้อม ส่วน สว.แย้มส่วนใหญ่ไม่หนุนแก้ 256

นายวันมูหะะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน ตัวแทนวุฒิสภาและ ตัวแทนคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือกำหนดเวลาในการ พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ประธานรัฐสภา เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า จะให้มีการพิจารณา ร่าง รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวันที่ 13-14 กพ. และน่าจะลงมติวาระที่1ได้ใน วันที่ 14 กพ. ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักพอดี อาจจะเป็น การประชุมที่เต็มไปด้วยความรัก ต่อประชาชน และเมื่อครบกำหนด180วันแล้ว ก็สามารถ นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบไปทำประชามติ ตามกฎหมายประชามติ ที่สภาผู้แทนราษฎรยืนยันได้ และตามกฎหมายนี้ จะต้องทำประชามติ 2 ครั้งโดย


หากผ่านวาระสามแล้ว จะต้องไปถามประชาชน ว่าเห็นชอบกับการให้มี สสร.มายกร่าง รัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ หากประชาชนเห็นชอบจึงจะทำการเลือก สสร.ได้ และเมื่อร่าง เสร็จแล้วนำมาผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้วจึงจะไปถามประชาชนอีกรอบหนึ่ง ถ้าประชาชนเห็นชอบก็เป็นไปตามขั้นตอน รอนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นชอบก็ถือว่าจบกันไปและถือว่าทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ อย่างเต็มที่แล้ว
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเลื่อนเวลาไปอีก 1เดือนโดยไปพิจารณาในกุมภาพันธ์ ก็ไม่กระทบกับกรอบเวลา เนื่องจากแม้พิจารณาเสร็จเร็ว ก็จะต้องรอ ร่าง พ.ร.บ. ประชามติครบ 180 วัน ซึ่งเหลือเวลาอีก ร้อยกว่าวัน เพื่อจะต้องทำประชามติ ถามประชาชน ดังนั้นคิดว่าพิจารณาด้วยความรอบคอบทุกสาระกระบวนความและทุกฝ่าย ร่วมพิจารณาด้วยความรอบคอบก็ไม่ถือว่าช้าเกินไป เพราะตนอยากให้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยดี และทุกคนรับผิดชอบร่วมกัน

ส่วนจะมีความหวังได้รัฐธรรมนูญใหม่ทันสภาชุดนี้หรือไม่นั้นนายวันมูหะะมัดนอร์ กล่าวว่า ในขั้นตอนนี้ยังไม่สามารถจะพูดได้ว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมกันของรัฐสภา อย่างน้อย 2ครั้ง ครั้งแรกคือ จบวาระสาม และ การให้ความเห็นชอบ หลังจากที่ สสร ยกร่าง รัฐธรรมนูญใหม่แล้ว อีกทั้งประชาชน ก็จะต้องให้ความเห็นชอบด้วย อย่างน้อย2รอบ ฉะนั้นทั้งหมดเป็นความหวังว่าน่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่หน้าตาจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบว่า สสร. จะยกร่างมาอย่างไร แต่ต้องอยู่ในกรอบที่รัฐธรรมนูญ 2564 ที่บัญญัติไว้ประกอบกับ การแก้ไขมาตรา 256


ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าเหตุที่ต้องทอดเวลาออกไปอีกหนึ่งเดือนเพราะมองว่ารัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสำคัญ มีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งร่างกฎหมายที่เสนอเข้ามาทาง สว.ก็ยืนยันว่าจะต้องขอไปพิจารณาศึกษา ก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะรัฐมนตรี จะไม่มีการเสนอร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญมาตรา 256 แต่จะให้โอกาสพรรคการเมืองอื่น ซึ่งนายชูศักดิ์ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงร่าง แก้ไขของพรรคเพื่อไทยให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อให้แต่ละพรรค ที่คิดจะแก้ไขได้ไปเตรียมการและเสนอร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญ เข้ามาให้สภาพิจารณาจึงต้องให้โอกาสทุกพรรคไปทำหน้าที่ ของตัวเอง ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาอยู่

ส่วนที่มองกันว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลเหตุใดจึงไม่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยคณะรัฐมนตรีนั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรคและได้พูดคุยกันแล้ว บางพรรคก็ยังไม่พร้อม ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้พรรคร่วมรัฐบาลว่าหากไหนพร้อม ที่จะเสนอ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเราก็ยินดี และถือว่าทำงานร่วมกัน


ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าความจริงแล้วฝ่ายค้านไม่ค่อยเห็นด้วยกับการทอดเวลาออกไป โดยอยากให้เลื่อนไปแค่สองสัปดาห์ เพื่อจะได้มีเวลา ในชั้นกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ก็เข้าใจดีในเหตุผลที่ทางวุฒิสมาชิก ขอเวลาในการศึกษาร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน จึงพบกันครึ่งทาง และเราก็คิดว่าไม่ได้กระทบกับกรอบเวลามากนัก เพราะในชั้นกรรมาธิการฯก็สามารถนัดประชุมบ่อยขึ้นได้ ดังนั้นแม้เห็นไม่ตรงกัน แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ยืนยันว่าในส่วนของสวไม่มีสัญญาณอะไรในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนเป็นอิสระ แต่เห็นว่าเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ และเท่าที่คุยกันนอกรอบกับพรรคเพื่อไทย บอกว่าจะมีร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญประกบเข้ามาอีก ทางสว. ต้องใช้เวลาในการศึกษา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเท่าที่พูดคุยกันในส่วนของสว. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพราะ มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้แล้ว กังวลว่าจะเสี่ยง ดังนั้น สว.จึงต้องการศึกษาให้ละเอียดก่อน และแน่นอนว่า หากไม่ชัดเจน คงไม่ โหวตให้ เพราะเรื่องนี้มีทั้ง สว.เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]