กระบี่ 10 ม.ค. – ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ร่วมกันจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจให้บุคคลใดมอบให้ซึ่งทรัพย์สินแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
นางอุไรวรรณ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ 2 อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานฯ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐาน “สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเสียหายหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
ตำรวจสอบสวนกลางทำการสืบสวนสอบสวนกรณีผู้เสียหายในฐานะหุ้นส่วนของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินที่ผู้เสียหายที่ได้รับจากการรับเหมาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการอำเภอเหนือคลอง จึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อขอความช่วยเหลือ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 ผู้เสียหายได้ทำสัญญาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการ ราคาจ้างเหมา 500,000 บาท โดยมีนายอำเภอเหนือคลอง เป็นผู้ลงนามว่าจ้างโครงการ ต่อมาช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 นายอำเภอเหนือคลองได้มาพูดคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังก่อสร้างตามสัญญาจ้างกับผู้เสียหาย และแจ้งว่า “หากเสร็จงานแล้ว ผู้เสียหายต้องให้นาย 50,000 บาท”
เมื่อผู้เสียหายทำการก่อสร้างโครงการตามสัญญาเสร็จสิ้นครบถ้วนตามสัญญา และทางผู้เสียหายได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.โคกยาง ได้โทรศัพท์มาบอกผู้เสียหายว่านายอำเภอเหนือคลองฝากบอกให้ผู้เสียหายนำเงินไปให้
เมื่อผู้เสียหายทราบเรื่องจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนางอุไรวรรณ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานฯ ทำหน้าที่หน้าห้องปลัดอาวุโส อ.เหนือคลอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินดังกล่าว แต่กลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ผู้เสียหายจึงไปหานายอำเภอเหนือคลองตามนัดแต่ไม่พบ
ระหว่างนั้นมีบุคคลโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายแจ้งว่านายอำเภอเหนือคลองให้นำเงินไปให้ ผู้เสียหายจึงนำเรื่องไปขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.กระบี่ จากนั้นร่วมกันวางแผนเพื่อจับกุมนายอำเภอเหนือคลอง โดยวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 10,000 บาท ไปมอบให้กับนายอำเภอเหนือคลอง แต่นายอำเภอเหนือคลองให้ฝากเงินไว้กับนางอุไรวรรณ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ 2
เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าไม่สามารถเข้าพบนายอำเภอเหนือคลองได้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปนั่งพูดคุยเรื่องเงินต่อหน้านายจีระศักดิ์ ปลัดอาวุโส และนางอุไรวรรณ (นามสมมติ) พร้อมนำเงินที่จัดเตรียมไว้ออกมา จากนั้นนางอุไรวรรณ (นามสมมติ) ได้หยิบเงินไปส่งมอบเงินให้กับนายอำเภอเหนือคลอง
ผู้เสียหายจึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับนายอำเภอเหนือคลอง และนางอุไรวรรณ (นามสมมติ) ตามกฎหมาย สำหรับการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย