สธ.19 พ.ค.-“อนุทิน” ยอมรับพูดเรื่องวอล์กอินเร็วเกินไป แต่จะเรียกอะไร ทั้งระบบวอล์กอิน หรือออนไลน์ เมื่อวัคซีนถึงจุดฉีดต้องฉีดให้หมด เพราะวัคซีนเอาออกมาแล้วเก็บไว้ไม่ได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสถานีกลางบางซื่อ กระทรวงคมนาคมเสนอให้ฉีดบุคลากรภาคขนส่งสาธารณะ ทั้งคนขับแท็กซี่ รถบัส เรือ คนทำงานสนามบิน ท่าเรือสามารถรองรับประชาชนได้นับหมื่นคนและแสนคน เป็นการฉีดในจำนวนประชากรจำนวนมาก ซึ่งหากฉีดกลุ่มนี้เสร็จแล้ว สธ. จะขอยืมสถานที่ให้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนต่อไป โดยวันที่ 21 พ.ค. จะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจดูความพร้อม แต่จะเริ่มฉีดได้เมื่อไรขึ้นกับความพร้อมของกระทรวงคมนาคม โดยคมนาคมจะใช้บุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดมาช่วย ได้แก่ โรงพยาบาลรถไฟ
นายอนุทิน ยังกล่าวว่า ส่วนความแตกต่างระหว่างการวอล์กอินและออนไลน์ ลงทะเบียนฉีดวัคซีนหน้างานตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุนั้นเชื่อว่า นายกฯ อยากให้มีการฉีดวัคซีนภายใต้แผนปกติที่นัดเข้ามาผ่าน “หมอพร้อม” และลงทะเบียนก่อน โดย สธ.จะเก็บข้อมูลทำรายงานว่าแต่ละวันมีคนที่นัดเข้ามาฉีดกี่คน ไม่มากี่คน เหลือวัคซีนเท่าไร ซึ่งวัคซีนที่นำออกมาใช้แล้วเอากลับไปสตอกไม่ได้ ต้องใช้ให้หมด ดังนั้น คนที่นัดแล้วไม่มาและเหลือ คนที่รับผิดชอบจุดฉีดต้องเตรียมแผนสำรอง อาจจะเชิญประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนบริเวณนั้นมาฉีดวัคซีนที่เหลือนี้ ทั้งนี้ยอมรับว่าตนเองพูดเรื่องวอล์กอินเร็วไปนิด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอย้ำว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ออกนโยบาย ส่วนกรมควบคุมโรคเป็นผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งหากปฏิบัติงานแล้วขาดเหลือสิ่งใดก็ให้แจ้งกับรัฐมนตรี ก็จะพยายามจัดหามาให้เพื่อสนับสนุนการทำงาน ส่วนหน่วยงานต่างๆ ที่มีการรวบรวมพนักงานของตัวเองเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยรัฐฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น แต่หากรวมกันมาฉีดที่โรงพยาบาลก็อาจเกิดความแออัด ภาระงานล้นเกินไป ดังนั้น ถ้าหากหน่วยงานองค์กรต่างๆ สามารถจัดหาสถานที่และบุคลากรทางการแพทย์เพื่อจัดฉีดวัคซีนได้ก็จะช่วย สธ.ได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย