สธ. 22 ก.ย. – รมว.สธ. ย้ำการฉีดวัคซีนในเด็กเป็นเรื่องของความสมัครใจไร้การบังคับ จัดสรรวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอที่ปลอดภัยมีคุณภาพ เหมาะสำหรับการฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยไฟเซอร์ล็อตแรกจะมาถึงไทย 29 ก.ย.นี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการรับวัคซีนโควิด-19 ในเด็กว่า เป็นเรื่องของความสมัครใจไม่ได้มีการบังคับผู้ปกครอง ว่าต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก โดยวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาจัดหาและทาง อย.อนุมัติแค่ไฟเซอร์เท่านั้น กำหนดฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ลอตแรก จะมาถึงไทยเพื่อฉีดให้กับเด็ก 29 ก.ย.นี้ จากนั้นจะทยอยมาจนถึงสิ้น ธ.ค.
โดยเชื่อว่าการรับวัคซีนจะทำให้เด็กได้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เด็กควรต้องมีชีวิตในโรงเรียน ต้องได้เรียนหนังสือในโรงเรียน เพียงแต่ว่าการรับวัคซีนในเด็ก เนื่องจากเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ การรับวัคซีนจึงต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง การนำวัคซีนของไทยไม่ใช่นำเข้ามาเพราะเป็นวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ แต่นำเข้าเพราะว่าวัคซีนมีความปลอดภัย ซึ่งจำนวนเด็กที่คาดว่าต้องได้รับวัคซีนมีต่ำกว่า 5 ล้านคน
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกรณีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กว่า แนวทางการรับวัคซีนในเด็กเป็นเรื่องของความสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นการรับวัคซีนชนิดใดก็ตาม ดังนั้นทางผู้ปกครองไม่ต้องกังวล หลังจากมีความเป็นห่วงเรื่องการรับวัคซีนไฟเซอร์ อาจทำให้มีผลกระทบต่อกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ พร้อมกันนี้ระบุว่าขณะนี้ทราบว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำลังพิจารณาเรื่องของวัคซีนเชื้อตายที่จะมาฉีดให้กับเด็กซึ่งมีความปลอดภัยสูง .-สำนักข่าวไทย