กทม.สั่งสวมแมสก์ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2 หมื่น

กทม. 25 เม.ย. – กทม.ยกระดับมาตรการคุมเข้มโควิด สั่งปิดสถานที่เสี่ยง 31 แห่ง ตั้งแต่พรุ่งนี้ เป็นเวลา 14 วัน ส่วนห้างปิด 2 ทุ่ม พื้นที่สีแดงวันนี้ ล่าสุดออกคำสั่งให้ประชาชนสวมแมสก์ทุกครั้งที่ออกนอกเคหสถาน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 20,000 บาท


คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ออกประกาศสั่งปิดสถานที่เสี่ยง 31 แห่ง อาทิ สนามมวย สนามม้า โรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ) สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม) สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า

คุมเวลาเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ 11.00-21.00 น. ห้ามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ร้านเสริมสวย ได้เฉพาะสระ ตัด ซอย และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน ร้านสะดวกซื้อเปิด 05.00-22.00 น.


มาตรการทั้งหมดให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 เม.ย.64 (เที่ยงคืนวันอาทิตย์) -9 พ.ค.64 รวม 14 วัน หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ร้านอาหารนอกห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้ นั่งกินภายในร้านได้ถึง 21.00 น. จากนั้นให้ขายแบบนำกลับบ้านถึง 23.00 น. โดยให้จัดที่นั่งห่าง 2 เมตร ถ้าน้อยกว่านี้ต้องมีฉากกั้น

ล่าสุด กทม.มีคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้อง หรือถูกวิธีทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นข้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564


ทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย ประกาศเลื่อนการเปิด-ปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เป็นเวลา 11.00-20.00 น. ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และร้านอาหารที่ตั้งในศูนย์การค้าจะให้บริการถึง 21.00 น. ส่วนร้านสะดวกซื้อและคอนวิเนียนสโตร์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น. โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ 25 เมษายน-2 พฤษภาคม 2564 ซึ่งจะใช้เฉพาะจังหวัดสีแดงเท่านั้น

สำหรับพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด ตามประกาศของรัฐบาล ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง