สำนักข่าวไทย 5 เม.ย. – อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยแผนรับมือโควิดช่วงสงกรานต์ ปรับเพิ่มสีพื้นที่เสี่ยงหลังยอดโควิด กทม.ปริมณฑลพุ่งจากเคสสถานบันเทิง มีผล 5 จังหวัด กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ต้องเปิดไม่เกิน 21.00 น. และห้ามจำหน่ายสุรา เสนอ ศบค.ชุดเล็กรับทราบ และมีผลใช้ทันที พร้อมคงมาตรการไว้ 2 สัปดาห์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ในผู้ต้องขัง จ.นราธิวาส และกลุ่มนักเที่ยว นักดนตรีในสถานบันเทิง ที่พบกระจายไปในพื้นที่ ได้แก่ กทม.และปริมณฑล จึงทำให้ต้องออกมาตรการคุมเข้ม ปรับเพิ่มสีพื้นที่ควบคุม แบ่งตามสีเดิม ทั้งสีแดงควบคุมสูงสุด สีส้ม และสีเหลือง โดยเน้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยพื้นที่ที่พบว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง ได้มีการปรับเพิ่มเป็นพื้นที่สีแดง 5 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ใช้มาตรการเดิมมีผลให้กิจกรรมและกิจการ เช่น ร้านอาหาร สถานบันเทิง ต้องเปิดไม่เกิน 21.00 น.ทานอาหารได้ แต่ห้ามดื่มสุรา ส่วนห้างสรรพสินค้า สถานบันกวดวิชาและฟิสเนต เปิดตามปกติ เพราะความเสี่ยงมาจากผับบาร์ และการดื่มสุรา
ส่วน 9 จังหวัด ที่ปรับเป็นพื้นที่สีส้ม ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชุมพร ตาก ราชบุรี ชลบุรี สุพรรณบุรี นราธิวาส กาญจนบุรี ร้านอาหาร สถานบันเทิง ต้องเปิดไม่เกิน 23.00 น. ทานอาหารได้ ดื่มสุราได้ แต่ห้ามเต้นรำ แสดงดนตรีสดในร้านได้ ส่วนห้างสรรพสินค้า สถานบันกวดวิชาและฟิตเนสเปิดตามปกติ
ส่วนพื้นที่สีเหลือง 10 จังหวัด ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. ทานอาหารดื่มสุราในร้านได้ ส่วนสถานบันเทิงผับบาร์เปิดไม่เกิน 24.00 น. ดื่มสุรา แสดงดนตรีสดในร้านได้ งดเต้นรำ ส่วนศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ฟิตเนสเปิดได้ตามปกติ พื้นที่เฝ้าระวัง 53 จังหวัด หรือสีเขียว ร้านอาหาร สถานบันเทิงผับบาร์ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานที่ ออกกำลังกาย เปิดได้ตามปกติ
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะคงไว้ 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงจะมีการประเมินสถานการณ์ พร้อมขอความร่วมมือเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ อาจไม่สนุกสนานเหมือนเดิม แต่ยังได้ทำกิจกรรมตามศาสนา ทั้งการสรงน้ำพระและกิจกรรมตามประเพณีอื่น ยกเว้นการสาดน้ำ กิจกรรมรื่นเริง ทั้งนี้จะมีการรายงาน ศบค.ชุดเล็ก ในวันที่ 7 เม.ย. ต่อไป เพื่อให้เห็นชอบ และสามารถมีผลบังคับใช้ได้ทันที
ส่วนมาตรการอื่นจะประสานให้ อสม.ในจังหวัดติดตามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสถานบันเทิง จาก กทม.และปริมณฑล และเฝ้าระวังควบคุมโรค ตามมาตรการที่กำหนด และให้มอบกรมควบคุมโรค ดำเนินการวางแผน Sentinel suveillance ในจังหวัดเสี่ยง เน้นพื้นที่ที่มีสถานบันเทิง ผับบาร์ ให้ทุกจังหวัดตั้งรับเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้ อสม.เคาะประตูบ้าน ให้โรงพยาบาลทุกแห่งซักประวัติหากมีความเสี่ยงให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที และเพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคในปัจจุบันให้สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง เปิดให้บริการตรวจประชาชนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด พร้อมให้ ทุกจังหวัดพิจารณา นำวัคซีนเพื่อการควบคุมโรค ตามคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม..- สำนักข่าวไทย