กกต. 17 ม.ค.-“ทนายอั๋น” เชื่อปมสนามกอล์ฟอัลไพน์-เขากระโดง มีดคนละเล่มของ ภท.-พท. ใช้เป็นอำนาจต่อรอง มองเขากระโดงหนักกว่าอัลไพน์ แนะ “ทักษิณ” อยากคืนอย่างสง่างามดอดไปถามกฤษฎีกาดู เชื่อคนกองกฐินเพื่อไทยเยอะ
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามสนามกอล์ฟ อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ ก่อนจะพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2567 ว่า ตนเคยนำประชาชนที่อยู่อาศัยหมู่บ้านที่อยู่ในสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯ ในที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งพื้นที่นี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งทำเป็นสนามกอล์ฟ อีกส่วนหนึ่งทำเป็นหมู่บ้านจัดสรร ชื่อหมู่บ้านราชธานี ครั้งนั้นตนพาประชาชนไปร้องกับนายชาดา ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่นายชาดา ดองเรื่องไว้นานก่อนจะลงนามคำสั่ง โดยในช่วงเย็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่าจะนำกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ฯ มาเปรียบเทียบกับเขากระโดงไม่ได้ แต่ทิ้งท้ายประโยคที่สำคัญว่ายังไงกรมที่ดินต้องรับผิดชอบ ตนเชื่อว่าทั้งกรณีที่ดิน สนามกอล์ฟอัลไพน์ หรือเขากระโดง กำลังจะจบแล้วในปี2568 และเชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องจะไม่ยอมตายแบบที่ไม่ได้อะไร ต้องมีการเตรียมแผนสำรองไว้
“ขอให้จับตาดูแผนที่ 2 ของเขา คือการโปรยทางเอาเงินภาษีของประชาชนไปเยียวยา คือการเอาเงินเยียวยาไปเยียวยาสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯ ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งถ้าเป็นประชาชน ก็ไม่ได้ว่าอะไร พอเยียวยาสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯเสร็จ จะเอาเงินมหาศาลหลายพันล้านบาทไปเยียวยาคนที่อยู่เขากระโดง โดยเฉพาะผู้มากบารมี นี่คือแผนที่ 2 ของเขา ผมดักคอไว้ให้พี่น้องประชาชนดู และผมเชื่อแบบนี้” ทนายอั๊นกล่าว
ส่วนกรณีการเปิดเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯ และเขากระโดง เป็นการสมรู้ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและเพื่อไทยหรือไม่ นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า เป็นแผนของทั้งสองฝ่าย เป็นการถือมีดทั้ง 2 เล่มได้ข้างหลัง ตนมองว่าที่ดินเขากระโดง เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสกว่าสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯ เพราะที่ดินเขากระโดงแต่แรกเป็นของหลวงอยู่แล้ว แต่ไปหาขั้นตอน ระเบียบ ช่องทางกฎหมายหรือเกมการเมืองเพื่อออกโฉนด ซึ่งไม่ชอบตั้งแต่แรก ทั้งสองกรณี ประชาชนไม่ยอม อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าในส่วนของสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯ ตระกูลชินวัตรไม่ได้อยากได้ เพราะรวยมหาศาลขนาดนั้น แต่ตนขอแนะนำถ้าเขินหรือกลัวเรื่องการทุจริตในการนำที่ดินไปคืน ขอให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือคนในตระกูลชินวัตร ถ้าอยากคืนแบบสง่างาม ให้แอบไปถามกฤษฎีกาขอคำแนะนำ หากกฤษฎีกาชี้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์โดยคำพิพากษาของคดีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็นำคืน ซึ่งจะได้ทั้งความสง่างามและมีดที่พรรคภูมิใจไทยถืออยู่จะกลายเป็นมีดทื่อ มีดปลอมไปทันที ไม่สามารถทำอะไรได้
ส่วนหากท้ายที่สุดที่ดินอัลไพน์ถูกเพิกถอนและชี้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์จะฟ้องเอาผิดจริยธรรมนักการเมืองที่ครอบครองหรือไม่นั้น ประเด็นของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายทักษิณ เชื่อว่าคนไปยื่นร้องเยอะแล้ว หากไม่มีคนไปยื่น ตนก็จะไปยื่นคำร้อง แต่เชื่อว่าตระกูลชินวัตร คนจองกฐินเยอะอยู่แล้ว.-314.-สำนักข่าวไทย