เชิญผู้ป่วยโควิดหายแล้วร่วมบริจาคพลาสมา

กรุงเทพฯ 3 ก.พ.- ศูนย์บริการโลหิตฯ สภากาชาดไทย เชิญชวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่หายแล้วมาร่วมบริจาคพลาสมา เพื่อนำไปช่วยเสริมการรักษาผู้ป่วยรายใหม่ ช่วยยับยั้งไม่ให้ปอดอักเสบอย่างรุนแรง


รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากการรณรงค์เชิญชวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่หายแล้วในรอบแรกเมื่อเดือน เม.ย.63 ให้กลับมาเป็นฮีโร่ในโครงการวิจัยการใช้พลาสมาเพื่อเสริมการรักษาโรค เนื่องจากพลาสมาของผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้ว จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัส สามารถนำไปใช้เสริมการรักษาผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรค โดยยับยั้งไวรัสก่อนที่จะเข้าไปทำลายเซลล์ปอดขั้นรุนแรงได้ ซึ่งภูมิต้านทานในพลาสมานี้ เปรียบเสมือนเป็นยาใช้รักษาโรคได้

โดยในรอบแรกมีผู้ป่วยที่หายแล้วมาลงทะเบียนกว่า 400 ราย แต่มีเพียง 152 รายที่สามารถบริจาคพลาสมาได้เป็นจำนวน 446 ถุง นำไปผลิตเป็น COVID-19 Convalescent Plasma หรือ CCP ที่มีภูมิต้านทานสูงได้จำนวน 383 ถุง ซึ่งได้นำไปดำเนินการ ดังนี้ 1. เตรียมเป็นพลาสมาโควิด-19 (CCP) พร้อมใช้รักษาโรค 250-300 มล./ยูนิต จำนวน 342 ยูนิต 2. นำพลาสมา CCP 160 ถุง ไปผลิตเซรุ่ม COVID-19 Intramuscular Immunoglobulin (CIMIG) ได้ 700 ขวด


ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า กว่า 1 ปีที่พบการระบาดเชื้อโควิด-19 ซึ่งการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ ความหวังการมีวัคซีนป้องกันโรคในประเทศไทย ถือเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษา คือ การนำพลาสมาของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่หายแล้ว มาใช้ในการรักษาผู้ป่วย

จากการทดลองใช้พลาสมาในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสถานกักกันโรค (Alternative State Quarantine) 1 ราย เป็นชาวต่างชาติที่มีอาการปอดบวมรุนแรง มีค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ จำเป็น ต้องให้ออกซิเจนในระดับสูง แต่หลังจากให้พลาสมา CCP ทันทีที่เข้าโรงพยาบาล โดยให้ 2 ครั้ง ล่าสุดผู้ป่วยอาการดีขึ้น สามารถลดการใช้ออกซิเจนได้ ทั้งนี้เชื่อว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้ประโยชน์จากการให้พลาสมาค่อนข้างเร็ว

นอกจากนี้มีโรงพยาบาลเบิกพลาสมา CCP จากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติไปใช้แล้ว 5 แห่ง เพื่อเสริมการรักษาให้ผู้ป่วย 9 ราย ผลการรักษาสามารถกลับบ้านได้ 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย และยังรักษาตัวอยู่อีก 2 ราย


ส่วนเซรุ่ม COVID-19 Intramuscular Immunoglobulin (CIMIG) อยู่ระหว่างนำมาทดลองกับอาสาสมัคร จำนวน 10 รายเพื่อศึกษาระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ COVID-19 และผลข้างเคียงก่อนนำไปใช้จริง

สำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่หายแล้ว สุขภาพแข็งแรงดี สามารถมาบริจาคพลาสมาเพื่อใช้เสริมการรักษาโรคให้แก่ผู้ป่วย โดยลงทะเบียนออนไลน์ ได้ที่ Facebook fan pageศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนัดหมายคัดกรองในรายละเอียดต่อไป สอบถามโทร. 0 2256 4300 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยมีฝนเล็กน้อยบริเวณภาคตะวันออก-ใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศร้อน ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน