สำนักข่าวไทย 12 ม.ค.- อาจารย์มประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ชำแหละส่วนผสมยาเคนมผง พบข้อมูลกลุ่มนักเสพที่เสียชีวิตมีการเปลี่ยนสาร จากเดิมใช้ยาเค เปลี่ยนเป็นยา “บีไฟว์” ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยจิตเวช มีฤทธิ์กดประสาท ออกฤทธิ์นาน 60 ชั่วโมง
รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยถึงส่วนประกอบของยาเคนมผง สารเสพติดที่มีกลุ่มวัยรุ่นใช้เสพทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย โดยสูตรยาดังกล่าวมีมานานแล้ว และเป็นสูตรที่มีการคิดค้นกันขึ้นมาเอง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์แรง
สำหรับส่วนประกอบหลักของเคนมผงประกอบด้วยสาร 4 ชนิด ยาเค เฮโรอีน ไอซ์และยานอนหลับ ที่ชื่อว่า “โรเซ่” ซึ่งเป็นยาที่ไว้ใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะออกฤทธิ์เสริมกัน ทำให้ผู้เสพสลบ หายใจเองไม่ได้ หรือหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ จากการพุดคุยกับนักเสพที่รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นที่เสียชีวิต บอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 วันที่แล้ว มีการเปลี่ยนส่วนประกอบยาเคนมผง จากเดิมจะใช้ยาเค แต่หากหายาเคไม่ได้ ก็เปลี่ยนเป็นยาชนิดอื่นที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมคือ บีไฟว์ (B5) หรือ แฮปปี้ไฟว์ ซึ่งมีชื่อในทางการแพทย์ว่า อีริมินไฟว์ (Erimin 5) โดยยาชนิดนี้นำมาใช้รักษาผู้ป่วยจิตเวช จะมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้มึนงง เสียการทรงตัวและออกฤทธิ์นาน 60 ชั่วโมง และมีผลข้างเคียงคือจะกดประสาทส่วนช่วยการหายใจ ทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งข้อมูลชุดนี้สอดคล้องกับกับผู้เสพที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ระบุว่า หลังจากเสพแล้วมีอาการมึนเมาอยู่ 3 วัน
อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวอีกว่า ในต่างประเทศพบมีนักเสพใช้ยาเคนมผงเหมือนกัน และมีการเพิ่มสารชนิดอื่นเข้าไปด้วย โดยสารเหล่านี้เป็นสารประกอบที่นำมาใช้ในงานเกี่ยวกับการประหารชีวิตนักโทษในต่างประเทศ เช่น สารโซเดียม เพนโทธาน มีฤทธิ์ทำให้นักโทษหมดสติ
แพนคิวโรเนียม โบรไมด์ ออกฤทธิ์ทำให้คลายกล้ามเนื้อ ในส่วนกล้ามเนื้อการหายใจ ทำให้หายใจลำบาก และโพแทสเซียม คลอไรด์ สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้น จึงต้องนำสารที่พบในของกลางที่พบที่เกิดเหตุไปตรวจในห้องปฏิบัติการที่วัยรุ่นมีการผสมสารเหล่านี้ด้วยหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย