เพิ่มเที่ยวบิน-หั่นค่าตั๋วเครื่องบิน 30% ช่วงสงกรานต์ เริ่มขายพรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 10 มี.ค.-“สุริยะ” มอบทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวก-มุ่งเน้นความปลอดภัยจากการเดินทางช่วงสงกรานต์ พร้อมรุกแก้ตั๋วเครื่องบินแพงช่วงสงกรานต์ จัดเที่ยวบินเพิ่ม 124 เที่ยวบิน มีที่นั่งเพิ่ม 25,000 ที่นั่ง พร้อมหั่นค่าตั๋วลดลง 30% เริ่มขายพรุ่งนี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2568 เพื่อให้การเดินทางของประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัยตลอดเส้นทาง และมีราคาค่าโดยสารที่เหมาะสม โดยมีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมร่วมประชุมด้วย


สำหรับราคาตั๋วเครื่องบินที่มีราคาสูงได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้หารือกับ 6 สายการบิน เพื่อร่วมกันสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาตั๋วโดยสารมีราคาแพง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีปริมาณความต้องการเดินทางสูง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2568 ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงสายการบินในสมาคมสายการบินประเทศไทย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท โดยมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นรวม 124 เที่ยวบิน และมีที่นั่งเพิ่มขึ้นรวม 25,000 ที่นั่ง พร้อมกับลดราคาตั๋วเครื่องบินลง 30% จากราคาเพดาน ในเที่ยวบินภายในประเทศที่ได้รับความนิยม

ทั้งนี้จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นรวม 124 เที่ยวบินนั้น ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-ภูเก็ต กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-กระบี่ กรุงเทพฯ-สมุย กรุงเทพฯ-นครพนม กรุงเทพฯ-อุดรธานี กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี กรุงเทพฯ-เชียงราย กรุงเทพฯ-ขอนแก่น กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช พร้อมเริ่มจำหน่ายในวันที่ 11-20 มี.ค.2568 ผ่านทางช่องทางของสายการบินโดยตรง ได้แก่ เว็บไซต์ call center และเคาน์เตอร์ขายตั๋ว


นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด (บวท.) รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมเน้นย้ำว่า ห้ามมีผู้โดยสารตกค้างอย่างเด็ดขาด

นายสุริยะกล่าวเพิ่มเติมว่า สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มเที่ยวรถไฟ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางปกติ และรถพิเศษเสริม 5 เส้นทาง รวมไป-กลับ 26 ขบวน ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ อุบลราชธานี อุดรธานี ศิลาอาสน์ และยะลา เบื้องต้นคาดว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนเดินทางด้วยรถไฟรวมประมาณ 758,024 คน-เที่ยว อีกทั้งยังมอบหมายให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เสริมรถโดยสารไม่ประจำทางอีก 1,000 คัน ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารประมาณอีก 100,000 คน ประจำสถานีขนส่งต่างๆ พร้อมกับจัด feeder รถให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาให้มีความเหมาะสมทุกจุดด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในวันที่ 11 เมษายน 2568 คาดจะมีจำนวนผู้ใช้บริการหนาแน่นสูงสุดประมาณ 130,000 คน

พร้อมนี้ได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้ M6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา (ช่วงหินกอง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา) ระยะทาง 167 กิโลเมตร โดยช่วงหินกอง – ปากช่อง ให้เดินรถทางเดียวโดยสลับเป็นเดินรถทางเดียวขาออกช่วงต้นเทศกาล และเดินรถทางเดียวขาเข้าช่วงปลายเทศกาล และ M81 (บางใหญ่ – นครปฐม – กาญจนบุรี) ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร รวมทั้งประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนใช้ถนนสายรองของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เพื่อลดปริมาณจราจรที่หนาแน่นของถนนสายหลัก


ส่วนด้านมาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ได้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางพิเศษ 5 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 ทางพิเศษศรีรัช เฉลิมมหานคร และอุดรรัถยา ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านระหว่างวันที่ 11 – 15 เมษายน 2568 รวมทั้งยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ M7 (กรุงเทพฯ – บ้านฉาง) และ M9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน) ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2568

สำหรับมาตรการขนส่งสาธารณะได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน และจัดบริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความต้องการ เข้มงวดความปลอดภัย โดยเฉพาะอุบัติเหตุระบบขนส่งสาธารณะต้องเป็นศูนย์

ตลอดจนสั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกมาตรการกรณีรถโดยสารไม่ประจำทางระยะเกินกว่า400 กิโลเมตร จะต้องจัดมีคนขับประจำรถโดยสาร 2 คน หรือหากมีพนักงานขับรถเพียงคนเดียว จะต้องมีการระบุจุดพักหรือระยะเวลาการจอดพักรถไม่น้อยกว่า 30 นาที ทุกๆ 4 ชั่วโมงและรถโดยสารไม่ประจำทาง 21 ที่นั่ง ต้องมีผู้บริการอย่างน้อย 1 คน โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาล รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ให้กำกับติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT- GPS และแจ้งเตือนเมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด กำชับผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ให้วางแผนการรับ-ส่งสินค้าไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของประชาชน ซึ่งกองบังคับการตำรวจทางหลวงจะออกประกาศห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนบางสายในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 13 เมษายน 2568 และวันที่ 15-17 เมษายน 2568

สำหรับถนนพระรามที่ 2 ได้สั่งการให้หยุดชั่วคราวก่อสร้างและคืนพื้นผิวจราจรระหว่างวันที่ 10-17 เมษายน 2568 ทั้งเพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหารถติด.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา