กทม. 3 ธ.ค. – สธ. แจงกรณีพบชายกำแพงเพชรติดโควิด-19 ที่แท้ป่วยมาก่อนหน้า มีระดับภูมิคุ้มกันขึ้น สืบประวัติเคยทำงานที่อุซเบกิสถาน และเตรียมไปทำงานที่สิงคโปร์ คนในบ้านไม่พบป่วย ส่วนเคสป่วยใน จ.เชียงราย ที่สัมพันธ์กับหญิงพะเยา ที่แท้คนติดเป็นเพื่อนชายนอนห้องเดียวกันไม่ใช่แฟนหนุ่ม วอนผู้เดินทางให้ข้อมูลตรงไปตรงมา เพื่อควบคุมโรคตรงจุด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเป็นชายที่จังหวัดกำแพงเพชร 1 คน ว่าผู้ป่วยรายนี้กำลังจะเดินทางไปทำงานที่สิงคโปร์ จึงมารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ทำสัญญากับทางประเทศสิงคโปร์ ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการออกมาพบเชื้อเป็นบวก จากนั้นจึงสอบสวนโรคพร้อมตรวจหาระดับภูมิคุ้มกัน พบ IgG มีลักษณะคล้ายกับเคสของชายชาวอินเดียที่กระบี่
จากการสอบประวัติชายคนนี้พบว่าเคยทำงานที่อุซเบกิสถาน ผ่านระบบการกักตัว 14 วัน ตรวจไม่พบเชื้อ แล้วกลับไปอยู่บ้านที่กำแพงเพชร จึงตรวจสอบไปที่คนในครอบครัว นำมาตรวจแล็บ และกักตัวเพื่อดูอาการ ซึ่งผลแล็บออกมาก็ไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตาม ชายคนดังกล่าวอยู่ที่สถานพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูล ประวัติของผู้ที่เดินทางข้ามแดนมาจากท่าขี้เหล็ก ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลไม่ตรงไปตรงมา แต่แท้จริงแล้วกลับพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนและวิเคราะห์หลายครั้ง ก็พบว่าให้ข้อมูลไม่ตรงกัน จึงต้องสอบสวนใหม่อีกครั้ง ผลปรากฏว่าในรายที่ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายได้แถลงว่าเป็นผู้ป่วยรายใหม่ติดเชื้อโควิด-19 จากหญิงพะเยาที่ทำงานท่าขี้เหล็ก ไม่ใช่แฟนหนุ่มแต่อย่างใด รายใหม่นี้เป็นเพียงเพื่อนชาย พักร่วมห้องกัน ส่วนแฟนหนุ่มจริงๆ ผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด
อยากวิงวอนให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากท่าขี้เหล็ก เมียนมา กรุณาให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ง่ายแก่การสอบสวนและควบคุมโรคในประเทศไทย เพราะไม่เช่นนั้นจะส่งผลอันตรายต่อคนในประเทศ.- สำนักข่าวไทย
