11 ม.ค.- ผู้ช่วย ผบ.ตร. บินด่วนรับตัว “เอ็ม กองเรือ” ที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมส่งตัวให้ สน.ชนะสงคราม สอบปากคำ
จากกรณีนายเอกลักษณ์ หรือ เอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต สส.ฝ่ายค้านของกัมพูชาดับบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยนายเอ็มได้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะสามารถจับกุมตัวนายเอ็มได้ขณะที่นายเอ็มแวะพักทานอาหารใน ต.ปเรยสวย อ.โมงรึไทร จ.พระตะบอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 67 เวลา 16.30 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา และชุดสืบนครบาล ได้นำตัวผู้ต้องหาไปที่ กองบังคับการจังหวัดพระตะบอง ก่อนจะส่งตัวไปที่ กองบัญชาการความมั่นคงภายใน จ.พนมเปญ เพื่อซักถามข้อมูล
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่กองบินตำรวจ (ท่าแร้ง) พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์ AW 189 ออกจากกองบินตำรวจ เพื่อเดินทางไปที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก หรือ ด่านอรัญประเทศ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาภายในจังหวัดสระแก้ว เพื่อรับตัวนายเอ็มพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้ควบคุมตัวนายเอ็มออกจากกรุงพนมเปญมาถึงที่บริเวณจุดผ่านแดนเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.50 น. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวมีการสืบสวน จนได้พยานหลักฐานแน่ชัดนำไปสู่การออกหมายจับตัวผู้ต้องหา ก่อนที่จะทราบว่าตัวผู้ต้องหาหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทางรัฐบาลของประเทศเราจึงมีการประสานไปยัง ผบ.ตร.ของกัมพูชา กระทั่งทางประเทศกัมพูชาจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ และเตรียมนำส่งตัวผู้ต้องหาให้กับเรา และเมื่อตัวผู้ต้องหาเท้าเหยียบผืนดินที่ประเทศไทย ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับในทันที จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปที่สน.ชนะสงคราม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับผิดชอบ เพื่อทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งการไปรับตัวก็จะปฏิบัติตามหลักวิธีในการควบคุมตัวผู้ต้องหา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากเดิมที่คาดการณ์จะใช้เวลาถึงสองสัปดาห์ มีกลไกอะไรที่ทำให้ไวขึ้น แต่กลับใช้เวลาเพียงสองวัน พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า ทางนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ จึงมีการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ และได้รับความร่วมมืออย่างดี ทำให้สามารถเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้เร็ว
ส่วนการดำเนินคดีที่ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าไปยังประเทศกัมพูชานั้น จากที่ทางประเทศกัมพูชานำตัวผู้ต้องหามาส่งให้เรา แสดงว่าทางกัมพูชาดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้คดีดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ชนะสงคราม
สำหรับกรณีคนชี้เป้า หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ แต่อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวอยู่ และสำหรับที่มีกระแสข่าวว่าคนชี้เป้ามีการหนีไปบวชนั้น ตนก็ยังได้รับรายงานในส่วนนี้ แต่สำหรับข้อมูลอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ แต่อยากให้เชื่อมั่น ตำรวจไทยเก่ง คงไม่ไม่มีปัญหาอะไร ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานอีกสักระยะ
สำหรับขั้นตอนการส่งตัวในวันนี้ พล.ต.ท.สมประสงค์ จะเป็นผู้ไปรับตัวนายเอ็มจากรอง ผบ.ตร. ของประเทศกัมพูชา ซึ่งจะเป็นผู้นำตัวมาส่งด้วยตัวเอง จากนั้นเมื่อควบคุมตัวผู้ต้องหามาถึงกองบินตำรวจ (ท่าแร้ง) เจ้าหน้าที่จะส่งมอบตัวผู้ต้องหา ให้กับพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม เพื่อสอบปากคำ ก่อนจะส่งตัวฝากขังศาลอาญารัชดา ในวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. 414.-สำนักข่าวไทย