“อนุทิน” สอนเชิงนายกฯ คุมอารมณ์อย่าหวั่นไหวคำแดกดัน

อนุทินสอนนายกฯ

ศรีสะเกษ​ 22 มี.ค.- “อนุทิน” สอนเชิง​ “นายกฯ แพทองธาร” ควบคุมอารมณ์อย่าหวั่นไหวกับคำกระแทกแดกดันศึกซักฟอก​ หลังเคยขึ้นเขียงมาแล้ว 6 ครั้ง​ เผยนายกฯ​ กลัวพูดไม่เก่ง​ ขณะ​พรรคร่วมหัวเราะเสริมพลัง​พร้อมเสิร์ฟข้อมูล​


นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี นัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเตรียมตัวก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจได้กำชับ หรือให้ช่วยอะไรหรือไม่ว่า​ ไม่ได้มีคำว่าช่วย เพราะการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคือการอภิปรายทั้งรัฐบาล รัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องเตรียมข้อมูลให้นายกฯชี้แจง ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ ส่วนไหนที่ถูกพาดพิง ถ้าจำเป็นก็ต้องช่วยนายกรัฐมนตรีชี้แจง และที่สำคัญต้องสนับสนุนให้การไว้วางใจการทำงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรามั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถชี้แจงได้เพราะเราเป็นคนสนับสนุน ข้อมูลต่างๆ อยู่แล้ว​ สำหรับนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็เห็นอยู่ว่าได้ดำเนินการตามนโยบายต่างๆ เราในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนไว้วางใจ

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีกังวลประเด็นใดหรือไม่เพราะมีพูดถึงเรื่องครอบครัวนายกฯด้วย​ นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯ กลัวว่าจะพูดไม่เก่ง แต่พวกเราเรียนท่านว่าท่านทำงานมา 6 เดือนกว่า หรือครึ่งปีแล้ว ท่านมีความมั่นใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ถ้าทุกอย่างอยู่ในเกมตอบได้หมด


เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีตัดพ้อเรื่องดีลแลกประเทศ หรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่าไม่มี​ไม่ได้พูดถึงเลย​ ท่านพูดถึงเรื่องงานในความรับผิดชอบ​หากเป็นเรื่องส่วนตัวอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานหรือเรื่องใดๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้น ในรัฐบาลของท่าน หรือที่เกิดก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ​ ท่านก็ไม่ทราบจะตอบอย่างไร

เมื่อถามถึงบรรยากาศดินเนอร์พรรคร่วมเมื่อวานนี้ ​(21 มี.ค.)​ นายอนุทิน​กล่าวว่า​ เป็นไปได้ด้วยดีนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ลงอินสตาแกรมแล้ว​ แต่เราไม่ได้หัวเราะด้วยความสุข​ เราพยายามทำให้ความกดดันต่างๆ ลดลง คิดว่านายกรัฐมนตรีมีความกดดัน แต่ก็ต้องทำให้ท่านมีความมั่นใจ มีความพร้อมว่าจะผ่านพ้นการอภิปรายนี้ไปได้ด้วยดี เพราะเป็นครั้งแรกของท่าน​ ส่วนตนเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งครั้งแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่เราก็ตอบด้วยความมั่นใจ​ เรารู้ว่าเราทำงานอะไร เราก็ตอบไปด้วยความมั่นใจ ถ้าทำโดยไม่มีเจตนาที่ไม่สุจริต จะยิ่งตอบได้อย่างไม่ต้องมีแรงกดดันอะไร

“ท่านต้องควบคุมอารมณ์ให้ดีอย่าไปอ่อนไหวต่อคำพูดกระแทกแดกดันต่างๆ​ ขอให้อยู่ในสาระของญัตติการอภิปราย ท่านนายกฯ ก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี” นายอนุทิน​กล่าว


เมื่อถามว่า การประชุมพรรคภูมิใจไทย จะกำชับอะไร 69 สส.ของพรรคหรือไม่นายอนุทิน​กล่าวว่า​ สส.​คนรู้หน้าที่ ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่จะมี สส.​ ยโสธร 1 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุเวทีถล่มก่อนหน้านี้ อาจไม่สามารถไปร่วมประชุมได้ แต่ชี้แจงได้อยู่แล้ว ยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหลังศึกซักฟอกจะมีการปรับ ครม. หรือไม่นายอนุทิน​ กล่าวว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่เพราะฝ่ายค้านบอกว่า จะนำข้อมูลจากการอภิปรายไปยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอนุทิน กล่าวว่า​ ถ้าถามว่ากังวลไหมเราก็กังวลว่า หากเป็นข้อมูลที่มากกว่าที่เรารู้ ในสิ่งที่เราทำ แบบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราทำอะไรมา เรารู้​ ทำดีทำชั่วเราก็ต้องรู้ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ทำแต่คุณงามความดีไม่น่าจะมีอะไรที่จะส่อไปในทางทุจริตได้

เมื่อถามว่าข้อมูลมหาดไทยพร้อมเสิร์ฟหรือไม่​นายอนุทิน​กล่าวว่า ทีแรกคิดว่าจะโดนด้วย เตรียมข้อมูลไว้มากพอสมควร ครั้งนี้ถึงแม้นายกรัฐมนตรีจะโดนคนเดียวก็ต้องมีการพาดพิงถึงงานทุกกระทรวง​ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ใช่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชี้แจง​ แต่เป็นการแถลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือฝ่ายค้าน ที่อาจไม่รู้ในรายละเอียดรับทราบซึ่งเราก็มั่นใจในสปิริต ของฝ่ายค้านอยู่แล้ว หลายครั้งเมื่อเราชี้แจงได้ หากพรรคฝ่ายค้านคลี่คลาย​ ก็เห็นสปิริตแสดงความขอบคุณและชื่นชมมา ถ้าอยู่กันแบบนี้ได้ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เขามีสิทธิ์ที่จะสงสัยถ้าเขาไม่สงสัย ก็แสดงว่าไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ ส่วนเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าหากมีการ พาดพิงรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะชี้แจงเลยหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า​ มีกฎระเบียบอยู่แล้วว่าอะไรลุกขึ้นตอบได้ หรือไม่ได้​ ส่วนไหนที่ถามนายกฯเราก็ต้องเตรียมให้นายกฯตอบ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ลุกขึ้นไปตอบแทน​ ฝ่ายค้านจะบอกว่าทำไม่ได้​อภิปราย​ ถ้าเรา​​​ดื้อพูดต่อไป ก็จะมีการประท้วงไปมา เสียเวลาพี่น้องประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ สส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ร้อยตำรวจเอกเฉลิม​ ​อยู่บำรุง​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย จะใช้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายโดยใช้เวลาของพรรคพลังประชารัฐ จะเหมาะสมหรือไม่นั้น​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า พลเอกประวิตร เป็นฝ่ายค้านอยู่แล้วก็มีสิทธิ์ที่จะอภิปราย แต่ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม เป็นการใช้เอกสิทธิ์ของความเป็นสส. ก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องไปดำเนินการ

ส่วนเรื่องการพาดพิงคนนอกอาจทำให้ เกิดการประท้วงจนการประชุมยืดเยื้อถึงวันที่ 27 มีนาคม​นั้น​ นายอนุทิน​ กล่าวว่าที่ประชุมก็ได้มีการพูดคุยกัน อยู่ดีๆ จะลุกขึ้นตอบแทนนายกก็คงไม่ได้ แต่หากอภิปรายพาดพิง มาโดนรัฐมนตรีเต็มๆ​ เราก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์พาดพิง แต่ต้องทำให้ถูกจังหวะ ต้องดูจังหวะจะโคนให้ดีอะไรควรพูดก็พูด อะไรไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด

เมื่อถามว่าจะอยู่จนถึง 05.30 น. หรือไม่นั้น​ นายอนุทิน​ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่าจะอยู่หรือไม่อยู่แต่เชื่อว่าทุกคนก็จะฟังถ่ายทอดสดไม่จำเป็นต้องอยู่บนบัลลังก์ และเพราะอยู่ในสภาก็ได้ยินเสียงทั่วอยู่แล้ว และกล่าวติดตลกว่า ซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP ใช้เป็นเครื่องขยายเสียง 3-4 เท่ามาแล้ว ไม่ต้องเสียบปลั๊ก เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของจังหวัดเชียงใหม่.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสาน เข้มโดรน-จับตาสถานที่สำคัญ

3 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ จังหวัดอีสาน เข้มมาตรการกำจัดโดรน สั่งจับตาสถานที่สำคัญ ศาลากลางจังหวัด-คลังอาวุธ-สถานีขนส่ง บูรณาการตำรวจจับผู้ก่อเหตุ ดำเนินคดีข้อหาหนัก “ก่อการร้าย-ไส้ศึก” เมื่อวันที่ 3 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ส.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะเพ่งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน นอกจากนี้ให้มีการจัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต คงต้องไปดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ […]

พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าสุรินทร์

สุรินทร์ 3 ส.ค. – พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าเมืองสุรินทร์ ชาวบ้านกังวลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายโดรน บินเหนือหลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมาก โดยยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการ ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโดรนจริง หรือเป็นอากาศยานชนิดใดกันแน่ ชาวบ้านในพื้นที่ได้โพสต์และแชร์ภาพวัตถุปริศนา บินอยู่เหนือเขตเมืองและพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้ามตามคำสั่งของกองทัพ ห้ามอากาศยานไร้คนขับบินโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทีมข่าวลงพื้นที่และสามารถบันทึกภาพวิดีโอไว้ได้ โดยพบวัตถุลักษณะคล้ายโดรนบินจากรอบนอกเมืองเข้าสู่เขตชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก ล่าสุดเช้าวันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดที่ชาวบ้านแจ้งว่าพบเห็นวัตถุดังกล่าว โดยมีการนำภาพถ่ายที่บันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นขณะที่ท้องฟ้ายังสว่างให้ทีมข่าวดู ภาพปรากฏวัตถุคล้ายเครื่องบินขนาดเล็ก หรือโดรนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด ชาวบ้านบางส่วนแสดงความวิตก ว่า วัตถุดังกล่าวอาจมีลักษณะคล้ายโดรนพลีชีพหรืออาจบรรทุกวัตถุระเบิด ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและกังวลในชุมชน จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือหน่วยงานความมั่นคง ออกมาชี้แจงโดยเร็ว เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่ . – 716 – สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบนฝนน้อย ทะเลอันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 ม.

กทม. 3 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]