ครอบครัวเหยื่อคานเหล็กพระราม 2 ถล่ม ทยอยรับศพ

กทม. 16 มี.ค. – ครอบครัวเหยื่อเหตุคานเหล็กสะพานพระราม 2 ถล่ม ทยอยรับศพ พร้อมถามหาผู้รับผิดชอบ เผยผู้เสียชีวิต ย้ายมาไซต์งานนี้แค่ 3 วันก่อนเกิดเหตุ


ความคืบหน้า กรณีนำร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุคานเหล็กสะพานพระราม 2 ถล่ม ทั้ง 5 ราย คือ 1.นายนราธร เยือกเย็น อายุ 39 ปี ชาว จ.ปทุมธานี เป็นพนักงานควบคุมการเทปูน 2.นายรุจธร หาระสา อายุ 47 ปี ชาว จ.นครราชสีมา หัวหน้าควบคุมงาน 3.นายสิทธิชัย เกษร ชาว จ.นนทบุรี คนงาน 4.นายซิน กู ออง (Zin Ku Aung) ชาวเมียนมา และ 5.นายลิน ออง (Naing Lin Aung) ชาวเมียนมา ส่งไปชันสูตรพลิกศพ สาเหตุของการเสียชีวิต ที่นิติเวช รพ.ศิริราช

ล่าสุด แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครอบครัวและญาติ ของผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 ราย ได้ทยอยเดินทางเข้ารับศพ เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีเจ้าหน้าที่จากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมาคอยอำนวยความสะดวก รวมทั้งประสานงานพาครอบครัวของแรงงานชาวเมียนมาร์ที่เสียชีวิตมาดำเนินการด้านเอกสารเพื่อรับศพด้วย


หนึ่งในครอบครัวผู้เสียชีวิต คือ นางสาวสุกัญญา ภรรยาของนายนรากร พร้อมทั้งแม่ น้องสะใภ้ น้องชาย รวมทั้งลูกชายของนายนรากรวัย 6 ขวบ ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ โดยแม่ของนายนรากรเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ทางครอบครัวทราบข่าวตอนตี 3 ของเมื่อวานนี้ว่าลูกชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์สะพานถล่มแล้ว รู้สึกช็อกและเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก

เช่นเดียวกับภรรยา ของนายนรากร ที่บอกว่าลูกชายของนายนรากร ผูกพันกับพ่อเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งก่อนที่นายนรากรจะออกไปทำงาน ก็จะต้องก่อนและหอมแก้มลูกชายทุกครั้ง เช้าเมื่อวานนี้หลังเกิดเหตุเขาก็ถามหาว่าพ่ออยู่ไหน สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวอย่างมาก สำหรับนายนรากรเป็นเสาหลักของครอบครัว เขาดูแลทั้งแม่ลูกชายของเขาและครอบครัวเป็นอย่างดี โดยนายนรากรเพิ่งมาสมัครงานกับผู้รับเหมารายนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา และเพิ่งย้ายมาที่ไซต์ก่อสร้างดังกล่าวเพียงแค่ 3 วันก่อนเกิดเหตุ

ที่ผ่านมาทางครอบครัวเคยเตือนลูกชายมาโดยตลอดว่าให้ระมัดระวังอันตรายจากไซต์ก่อสร้างถนนพระราม 2 ที่มักจะมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง แม้ตัวเขาก็ไม่อยากทำที่นี่ แต่ที่ยังคงทำงานต่อไป ก็เพราะเนื่องจากมีรายได้ที่ดีและที่ทำไปยอมเหนื่อยก็เพื่อครอบครัว โดยเฉพาะเพื่อแม่และลูกชายที่เขาดูแลเป็นอย่างดี โดยก่อนที่จะเสียชีวิต นายนรากรได้เดินมาบอกกับแม่ว่า อยากจะพาแม่และลูกชายไปทานข้าว ทั้งนี้หลังจากที่ลูกชายเสียชีวิตไปแล้ว ก็อยากจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมถนนพระราม 2 แบบนี้กับใครอีก หลังจากนี้จะนำศพนายนรากรไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางพูน ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี อันเป็นบ้านเกิดต่อไป เป็นเวลา 7 วัน


ด้านนางสาว ภัชธนษร น้องสะใภ้ของนายนรากร บอกว่า นายนรากร พี่เขยทำงานเป็นพนักงานควบคุมการเทปูน ย้ายมาทำงานที่ไซต์งานนี้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ซึ่งในตอนแรก ทางครอบครัวไม่รู้ว่าพี่เขยย้ายมาทำงานที่พระราม 2 บอกเพียงว่าเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ แต่พี่ชายก็เคยบ่นว่ามันไกลและเหนื่อยมาก แต่เขาก็อยากอดทนเพื่อลูกและครอบครัว

เบื้องต้น ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานทางราชการติดต่อมาทางฝั่งครอบครัวเพื่อเยียวยาหรือแสดงความรับผิดชอบเลย มีเพียงแค่บริษัทคอนกรีต ต้นสังกัดนายนรากรที่ติดต่อแสดงความรับผิดชอบและขอเป็นเจ้าภาพ 1 คืน โดยทางครอบครัวตั้งใจจะตั้งสวดอภิธรรมศพทั้งหมด 7 คืน เนื่องจากต้องการรอให้หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบติดต่อมาจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน เมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้ว ก็จะดำเนินการฌาปนกิจศพต่อไป แต่ถ้าหากไม่ได้รับคำตอบหรือการเยียวยา ก็จะไม่ฌาปนกิจศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

นอกจากนี้ ตนก็อยากขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด แม้จะเป็นเหตุการณ์ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตแต่ละรายได้รับผลกระทบและเดือดร้อนมาก จึงอยากให้หน่วยงานราชการออกมาดูแลให้เร็วกว่านี้ .-418-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ