ศาลยกฟ้อง “ตู้ห่าว-พวก” คดีอาชญากรข้ามชาติ-ฟอกเงิน-ยาเสพติด

11 ก.พ. – ศาลพิพากษายกฟ้อง “ตู้ห่าว-อดีตภรรยาตำรวจหญิง” และพวกรวม 19 คน ฐานค้ายา ฟอกเงิน อั้งยี่อาชญากรรมข้ามชาติ ศาลชี้พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ส่วนอีก 6 คน มีความผิดข้อหายาเสพติด อาวุธปืน จัดตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ สั่งจำคุกและปรับหลายกระทง


ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดี 3 สำนวนที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายฮวง ไฮ่ เท่า (HUANG HAITAO) เป็นจำเลยที่ 1 นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เป็นจำเลยที่ 2 รวมกับพวกสัญชาติจีน ไทย กัมพูชา และบริษัทนิติบุคคล 5 แห่ง รวมจำเลยทั้งสิ้น 25 คน จาก 3 สำนวนคดี ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดประมวลกฎหมายยาเสพติด // พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 // พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 // พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 // พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 //พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 // พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91, 209 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้โดยวันนี้ โจทก์ จำเลยทุกคน และทนายความ เดินทางมาศาล ซึ่งศาลได้จัดล่ามภาษาจีนไว้รองรับ

ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 25 คนฟัง ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์เบื้องต้นว่า การตรวจค้นผับจินหลิง ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุของตำรวจ ในช่วงปี 2565 พบชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองกว่า 100 คน ยาเสพติด อาวุธปืน และของกลางต่าง ๆ ตามบัญชีของกลาง ซึ่งคดีนี้จากการสืบสวนสอบสวน โจทก์อ้างว่าพบความเชื่อมโยงในบัญชีการเงินของผับจินหลิง ซึ่งมีนายตู้ห่าว จำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของ กับสถานบริการในประเทศกัมพูชา คาดว่าเป็นการทำธุรกรรมโอนเงินซื้อขายยาเสพติด อีกทั้งยังมีพฤติการณ์เชื่อมโยงกับจำเลยทั้งหมด โดยพบว่า จำเลยที่ 1, 4 และ 5 ให้การรับสารภาพ แต่จำเลยที่เหลือให้การปฏิเสธ


ศาลพิเคราะห์แล้ว ไม่พบพยานหลักฐานหรือข้อเท็จจริงของโจทก์ที่ชี้ชัดได้ว่าจำเลยมารวมตัวกันและกระทำการเข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หรือเป็นอั้งยี่ เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน้อย ไม่หนักแน่นเพียงพอ จำเลยทั้งหมดจึงไม่มีความผิดตามฟ้องในข้อหาดังกล่าว สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ซึ่งมีความผิดมูลฐานจากคดียาเสพติด โดยพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักมั่นคงมากพอที่จะทำให้รับฟังได้ เนื่องจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินในบัญชีธนาคารไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่าเงินที่เข้ามาในบัญชีของจำเลยที่เกี่ยวข้อง เป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด หรือการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มในสถานบริการได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย การกระทำของจำเลยทั้ง 25 ไม่มีความผิดฐานฟอกเงิน

ศาลจึงพิพากษาจำเลยที่ 1/4 มีความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและครอบครองอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด / พ.ร.บ.อาวุธปืน 5 กระทง ลงโทษทุกกรรม จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 27 ปี 6 เดือน ปรับ 1,690,000 บาท

ส่วนจำเลย 5 มีความผิด 8 กระทง 5 กระทงแรก คือความผิดเดียวกับจำเลยที่ 1 และ 4 ส่วนกระทงที่ 6-8 เป็นความผิดเกี่ยวกับการจัดตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 28 ปี 12 เดือน ปรับ 2,600,000 บาท


ส่วนจำเลยที่ 7, 11 และ 12 พบมีความผิดฐานสนับสนุนและช่วยเหลือเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด 4 กระทง เบื้องต้นทั้งสามคน ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอยู่บ้างจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 21 ปี 24 เดือน ปรับคนละ 1,706,666.66 บาท และให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2/3 /6 8/9/10/13/14/15/16/17/18/19/20/21/22/23/24/25.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]