ศูนย์ราชการฯ 16 มิ.ย. – ประธาน กกต. พอใจภาพรวมการเลือก สว.ระดับจังหวัด ยันสอบรายชื่อโพย สว. รวดเร็ว ยึดตามกฎหมาย กำชับตำรวจ-เจ้าหน้าที่ดูแลเข้มขณะผู้สมัครเข้าห้องน้ำ อุดช่องโหว่จดโพย
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ตรวจเยี่ยมสถานที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัดว่า ภาพรวมเป็นที่พึงพอใจ และทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อม โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเดินทางไปที่ จ.ราชบุรี และ จ.นครปฐม โดย จ.ราชบุรี มีผู้สมัครผ่านเข้ารอบระดับอำเภอไปยังระดับจังหวัด รวมทั้งสิ้น 458 คน และไม่มารายงานตัวทั้งสิ้น 4 คน ส่วนการจัดสถานที่และอำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครเป็นไปด้วยดี ช่วงที่ตนเดินทางไปนั้น เป็นช่วงที่ผู้สมัครเข้ารับรายงานตัว ซึ่งตนเห็นว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรฯ ได้เดินทางไปอำนวยความสะดวกและกำกับดูแลการเลือกตั้งด้วย ส่วน จ.นครปฐม ก็มีความเรียบร้อยเช่นเดียวกัน โดยมีผู้สมัครรายงานตัวครบตามจำนวน 210 คน ซึ่งจะเห็นว่ามีความพร้อมและความตั้งใจของผู้สมัครที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายโดยสุจริต ขณะเดียวกัน จ.ราชบุรี มีประชาชนที่มาสังเกตการณ์การเลือก สว.
ประธาน กกต. ยังกล่าวอีกว่า ตนได้รับรายงานจากผู้อำนวยการการเลือก สว.ของกรุงเทพมหานครว่า ผู้สมัคร 1,634 คน มีผู้ไม่มารายงานตัว 17 คน โดยมี 1 ใน 17 คน เข้ามารายงานตัวแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตนได้รับรายงานจากนายแสวง บุญมี เลขาฯ กกต. ที่เข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่อื่น ทราบว่าขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังไม่ได้รับรายงานถึงปัญหาอุปสรรค
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 4 มาตรา มีความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ จนต้องส่งผลกระทบต่อการเลือก สว.ระดับอำเภอและระดับจังหวัด หรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ศาลจะมีคำวินิจฉัยในอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งเลขาฯ กกต.ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า สำนักงานฯ เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด
ส่วนที่ล่าสุดผู้สมัคร สว.บางรายไม่ผ่านการคัดเลือกในระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร เริ่มออกมาเปิดเผยว่า มีการกำหนดโพยผู้ชนะเอาไว้แล้ว นายอิทธิพร กล่าวว่า ผู้สมัครสามารถยื่นเรื่องโดยตรงกับทาง กกต.ได้ หรือไปยื่นศาลฎีกาได้เช่นกัน ภายในระยะเวลา 3 วัน ซึ่งมีคำร้องกับการเลือก สว.ในระดับอำเภอทั้งหมด 78 คำร้อง โดยเป็นคำร้องเกี่ยวกับกระบวนการเลือกทั้งสิ้น 11 คำร้อง ซึ่งทาง กกต.ต้องพิจารณาให้เสร็จก่อนการเลือก สว.ระดับจังหวัด ภายในวันนี้ ซึ่งพิจารณาแล้วเสร็จ และเป็นคำร้องระดับอำเภอ 67 คำร้อง โดยเป็นคำร้องเกี่ยวกับการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการร้องเรื่องการจัดจ้างมาลงสมัครเลือก สว. และมีคำร้องระดับจังหวัดเข้ามา 2 คำร้อง ในจังหวัดพะเยาและมหาสารคาม
ทั้งนี้ หากผลการเลือก สว.ระดับจังหวัด ออกมาตามโพย จะมีการสืบสวนสอบสวนหรือดำเนินการอย่างไรบ้าง นายอิทธิพร กล่าวว่า กระบวนการที่ 1 คือ ตรวจสอบว่าพยานหลักฐานที่นำมายื่นเป็นหลักฐานที่แท้จริงหรือไม่ และจะต้องเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัยโดยเร็ว ส่วนผลเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับคำร้องแต่ละคน ยืนยันว่าจะทำอย่างรวดเร็ว ไม่ล่าช้า
ส่วนหากมีการสืบสวนไต่สวน แต่ไม่สามารถหาที่มาได้ จะส่งผลต่อกระบวนการเลือก สว. อย่างไร นายอิทธิพร ระบุว่า ต้องคำนึงว่ากระบวนการยุติธรรมจะต้องคำนึงถึงพยานหลักฐาน ตนขอย้ำว่า หากพยานหลักฐานมีไม่ครบ การดำเนินการต่อไปจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นหากมีพยานหลักฐานโปรดส่งให้ กกต. เนื่องจาก กกต. มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่ต้องมั่นใจว่าพยานหลักฐานนั้นถูกต้อง และสามารถดำเนินการตัดสินได้อย่างเป็นธรรม
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงกรณีการทักท้วงคัดค้านหรือนับคะแนนใหม่นั้น ประการที่ 1 ผู้สมัครต้องทักท้วงหรือคัดค้านระหว่างการนับคะแนน ซึ่งเราได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ผู้ที่จะคัดค้านหรือทักท้วงเช่นนี้ จะต้องมีการกรอกข้อมูลการคัดค้านให้ถูกต้อง และจะมีการแก้ไขในเวลานั้นทันที หากผู้ปฏิบัติเห็นว่าเขาปฏิบัติถูกต้องแล้ว ผู้ปฏิบัติจะต้องให้เขาลงแบบทักท้วง แล้วเข้าสู่กระบวนการของ กกต. และทาง กกต.จะไต่สวนให้เสร็จโดยเร็ว และเลือกใหม่แล้วแต่กรณี หากทักท้วงแล้วไม่ผิดพลาดประการใด ก็จะเป็นการยกคำร้อง ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 26 มิ.ย.นี้
ส่วนการอุดช่องโหว่ขณะผู้สมัครเข้าห้องน้ำและอาจมีการจดโพยนั้น นายอิทธิพร เผยว่า ผู้สมัครจะต้องแจ้งว่าจะเข้าห้องน้ำ และมีผู้ติดตามเข้าไปด้วย โดยจะมีการตรวจสอบเรื่อยๆ มีการขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย รวมถึงตำรวจ ให้ดูแลเป็นกรณีพิเศษ และกำชับทุกจังหวัด.-313-สำนักข่าวไทย