นครปฐม 16 ก.ย. – ผู้กำกับ สน.พญาไท ถูกเรียกสอบเป็นวันที่ 2 หลังพบคำให้การก่อนหน้านี้ขัดแย้งกับภาพวงจรปิดที่กู้ได้ พร้อมเปิดใจระบุครั้งแรกตั้งแต่เกิดเหตุยิง “สารวัตรแบงค์” ได้สั่งการให้ลูกน้องเข้าให้การช่วยเหลือ “สารวัตรแบงค์-รอง ผกก.วศิน” ส่งโรงพยาบาล
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ผู้กำกับ สน.พญาไท หนึ่งในตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์บ้านกำนันนก เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดียิง “สารวัตรแบงค์” เสียชีวิต การให้ปากคำวันนี้ถือเป็นวันที่ 2 หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกู้ไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดในงานเลี้ยงกำนันนกได้ พบว่าคำให้การ ของผู้กำกับ สน.พญาไท ก่อนหน้านี้ขัดกับภาพวงจรปิดที่กู้มาได้ บรรยากาศสอบปากคำเป็นไปอย่างเคร่งเครียด และยาวนานกว่า 2 ชั่วโมง
ภายหลังสอบปากคำ พ.ต.อ.กฤษฎาพร ผู้กำกับ สน.พญาไท ออกมาให้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตอนนี้ไม่เครียดแล้ว และไม่กังวลเรื่องที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจเพิ่มเติม เพราะให้การไปหมดแล้ว รายละเอียดอยู่ในสำนวน ยืนยันว่าหลังเกิดเหตุได้ขับรถตามประกบท้ายรถคันที่พาสารวัตรแบงค์ และ พ.ต.ท.วศิน ไปส่งโรงพยาบาลจริง แต่ว่าไปหลงตรงบริเวณแยกปั๊มน้ำมันพีที เพราะลูกน้องเลี้ยวผิด ทำให้เสียเวลาไปประมาณ 8 นาที จึงตามไปถึงโรงพยาบาลช้า ซึ่งชุดคลี่คลายคดีได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ตนหลงทางแล้ว ส่วนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนั้น ได้การสั่งการให้ลูกน้องเข้าไปช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
พ.ต.ท.กฤษฎาพร ยังเล่าเหตุการณ์จังหวะที่สารวัตรแบงค์ถูกยิงอีกว่า ตนเห็นนายหน่องเดินมาและได้ยินเสียงปืนนัดแรก ตอนแรกยังคิดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า จากนั้นได้ยินเสียงปืนอีก 7 นัด แบ่งเป็นการยิงออกเป็น 2 ชุด ชุดแรก 5 นัด ชุดที่ 2 อีก 2 นัด โดยตนหันไปเห็นจังหวะยิงประมาณนัดที่ 6-7 แล้ว จึงเห็นว่าเป็นปืนกล็อก ตอนนั้นเห็นสารวัตรแบงค์กำลังจะตกจากเก้าอี้ และ ด.ต.ชนาณัฐ ตะโกนบอกกับตนว่าสารวัตรแบงค์ถูกยิง ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนสั่งการ หลังเกิดเหตุตำรวจในงานต่างตกใจ ส่วนอาวุธปืนประจำกาย ตนเอาไว้ในรถ ไม่ได้พกไว้กับตัว พร้อมระบุก่อนเกิดเหตุมีการดวลเหล้ากันจริง
ขณะที่ ด.ต.ชนานัต และ ด.ต.สราวุธ ซึ่งเป็นตำรวจที่ขับรถนำสารวัตรแบงค์ และรองผู้กำกับวศิน ส่งโรงพยาบาล ก็ถูกเรียกมาให้ปากคำด้วยเช่นกัน ทั้งสองคนใช้เวลาในการให้ปากคำประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนเดินทางกลับ โดยระบุกับสื่อมวลชนว่ายังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ใดๆ ในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลซึ่งเป็นพลเรือนอีกจำนวนหนึ่งถูกเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย หลังปฏิเสธว่าไม่เห็นเหตการณ์ ซึ่งขัดแย้งกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่กู้ได้
สำหรับจำนวนข้าราชการตำรวจที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา ใน 1-2 วันนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 15 นาย และมีตำรวจอย่างน้อย 1 นาย ที่พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับ หลังพบพยายามเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
สำหรับผลการประชุมสรุปข้อหาที่จะดำเนินคดีกับตำรวจ 15 นายที่เหลือ พล.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมข่าวแถลงความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) เวลา 15.00 น. -สำนักข่าวไทย