พรรคก้าวไกล 29 พ.ค.-ก้าวไกลประชุมภายในก่อนหารือพรรคร่วมพรุ่งนี้ เตรียมตั้ง กก.เปลี่ยนผ่านรัฐบาล ยันไม่เอา ก.พลังงาน แลกประธานสภาฯ ย้ำเอาวาระเป็นตัวตั้งแบ่งกระทรวง ไม่ระแวงเพื่อไทย ยึดหลักทำงานร่วมกันต้องไว้ใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคก้าวไกลประชุมแกนนำเป็นการภายในวันนี้ (29 พ.ค.) เพื่อเตรียมหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลร่วมประชุม โดยนายพิธา เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมภายในปกติและไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ
ขณะที่นายชัยธวัช เปิดเผยว่า จะพูดคุยกันภายในของพรรคก้าวไกลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปประชุมกับว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ โดยมีวาระเกี่ยวกับแนวทางการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอให้ตั้งคณะทำงานในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลหรือ transition Team เพื่อเตรียมความพร้อม เพราะไม่อยากให้ช่วงเวลา 1-2 เดือนก่อนเข้าไปบริหาร หมดไปโดยไม่ได้เตรียมพร้อม แต่อยากให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาทางเฉพาะหน้าและระยะยาว จึงต้องทำการบ้านและวางแผน โดยเฉพาะเรื่องการใช้งบประมาณ ให้สอดคล้องกับแนวทางและนโยบายของรัฐบาลที่จะทำ
“ต้องพูดคุยกันถึงเรื่องของการแบ่งความรับผิดชอบและนำไปสู่จุดลงตัว เรื่องการลงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วย โดยมีแนวทางหลักคืออาจจะต้องแบ่งกันตามสัดส่วนที่นั่ง ส.ส. แต่ไม่ถึงกับแบ่งเป็นเกรด A เท่ากับกระทรวงเกรด B 2 ที่นั่งเหมือนในอดีต แต่จะเอาเรื่องของวาระการทำงานเป็นหลัก ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเอากระทรวงพลังงานไปแลกกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกับพรรคเพื่อไทย และเรื่องโควตารัฐมนตรียังไม่ได้แบ่งกระทรวงกันชัด แต่การพูดคุยมีแนวโน้มที่ดี” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่ต้องพูดคุยในวันพรุ่งนี้คือปัญหาต่าง ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ค้างจากรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาราคาน้ำมันเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ค้างจากรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ทิ้งเอาไว้จากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาล จึงต้องหารือกันในทีมเปลี่ยนผ่านรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร เมื่อรัฐบาลเข้ามาสู่ตำแหน่งบริหารจริง ๆ รวมถึงยังมีประเด็นอื่น ๆ ทั้งเรื่องรถไฟฟ้าที่จะต้องพูดคุยกันเนื่องจากมีความเห็นที่หลากหลาย
ส่วนกระแสข่าวรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ความจริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กัน เพราะการประสานงานกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปได้ด้วยดี และเมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประสานไปยังพรรคเพื่อไทยว่าเรื่องของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เราควรจะยุติการให้ข่าวหรือให้ความเห็นผ่านสื่อมวลชน และมาพูดคุยกันภายในน่าจะสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ยังมีระยะเวลาพอสมควรที่จะหาข้อยุติด้ผ่านการทำงานร่วมกัน และเรื่องนี้น่าจะเป็นการพูดคุยกันภายในระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เสนอว่า โดยปกติตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคที่ได้อันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 และ 3 ได้รองประธานสภาไปตามลำดับ
นายชัยธวัช กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อขอเสียงสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า หลังจากที่ได้ลงนามและแถลง MOU ไปแล้ว ได้ประสานพบปะพูดคุยกับทาง ส.ว.มากขึ้น และเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจาก MOU มีความชัดเจน ทำให้สามารถประกอบการตัดสินใจของ ส.ว.ได้ ก่อนหน้านี้ ส.ว.หลายคนอาจจะได้รับข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือบิดเบือนบ้าง โดยเฉพาะเรื่องนโยบายด้านต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้พูดคุยกันแล้ว ช่วยให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น และหลังจากนี้แกนนำจะหาโอกาสไปพูดคุยให้มากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ว่าการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะพลิกล็อก เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรายังยึดหลักว่าหากทำงานร่วมกัน การให้เกียรติและความไว้วางใจซึ่งกันและกันดีที่สุด หากเรามัวแต่กังวล จะทำงานร่วมกันยาก ดังนั้นต้องยืนอยู่บนพื้นฐานความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน จึงไม่ถามพรรคเพื่อไทยในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย