ทำเนียบฯ 17 มี.ค.-พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เริ่มบังคับวันนี้นายกรัฐมนตรี แนะหน่วยงาน และธนาคารทุกแห่งร่วมกันดูแลประชาชน แนะผู้ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน แจ้งแบงก์ระงับบัญชีได้ทันทีตลอด 24 ชม. เจ้าของบัญชีม้า ซิมม้า มีโทษอาญาหนักทั้งจำคุก ทั้งปรับ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และกฎหมายเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ 17 มี.ค. 66 เป็นต้นไป นายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลคุ้มครองประชาชนจากมิจฉาชีพให้เร็วที่สุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมี อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. กระทรวงการคลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนถูกมิจฉาชีพหลวกลวงสามารถติดต่อศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคารเพื่อระงับบัญชีได้ทันทีและตลอด 24 ชั่วโมง นับเป็นกลไกระดับความเสียหายได้ทันท่วงที หลังจากธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐรวม 15 แห่ง ได้เปิดศูนย์แจ้งเหตุฯ แล้ว
นอกจากนี้ ผลของกฎหมายยังมีผลให้เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า มีโทษอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนหมายโทรศัพท์ ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“นับจากนี้ หากประชาชนท่านใดรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงให้รีบโทรไปที่ศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพธนาคารที่ท่านมีบัญชีอยู่เพื่อระงับบัญชีได้ทันที และฝากถึงผู้ที่รู้ตัวว่าได้เปิดบัญชีม้า ซิมม้าให้มิจฉาชีพใช้เพื่อหลอกลวงประชาชนให้ไปปิดบัญชีเสีย หากเจ้าหน้าที่จับได้จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และท่านจะอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้เพราะรัฐบาลได้เตือนเรื่องนี้มานานแล้ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย