กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เผยเมกะโปรเจกต์ขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชน หนุนเศรษฐกิจภาคเหนือขยายตัว
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ โดยมีเมกะโปรเจกต์ ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นตัวขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชน ประกอบด้วย โครงการการขยายสนามบินเชียงใหม่ เพื่อรองรับการเดินทางนักท่องเที่ยว 18 ล้านคนในปี 2568 โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โครงการมอเตอร์เวย์เชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณสามแยกแม่โจ้ เป็นต้น แผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมดังกล่าวเปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ ๆ รวมถึงส่งผลโดยตรงต่อความหนาแน่นของโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรร พบมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 176 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 20,667 หน่วย เหลือขายประมาณ 7,459 หน่วย (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 159 โครงการ หน่วยในผัง 17,270 หน่วย เหลือขายประมาณ 7,042 หน่วย) แบ่งบ้านเดี่ยวมากที่สุดร้อยละ 68 ของหน่วยบ้านจัดสรรทั้งหมด ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 12 อาคารพาณิชย์ร้อยละ 6 บ้านแฝดร้อยละ 7 ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าจัดสรร โดยสัดส่วนบ้านเดี่ยวลดลงจากร้อยละ 77 ในปีก่อนหน้า ซึ่งบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์พักอาศัยส่วนใหญ่ 3-5 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ 2-3 ล้านบาท
ส่วนจังหวัดเชียงราย จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรรอยู่ระหว่างการขาย 42 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 3,283 หน่วย มีมูลค่าโครงการการตามหน่วยในผังรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 9,000 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 1,745 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 5,500 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 35 โครงการ 2,953 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,781 หน่วย) แบ่งเป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุดร้อยละ 38 ของหน่วยบ้านจัดสรรทั้งหมด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 26 อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 21 ที่ดินเปล่าร้อยละ 12 อันดับสุดท้ายเป็นบ้านแฝดร้อยละ 3 ตามลำดับ โดยบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่ 1-1.5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์และบ้านแฝด 2-3 ล้านบาท
จังหวัดพิษณุโลก จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรรอยู่ระหว่างการขาย 38 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 2,562 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,180 หน่วย อยู่ในอำเภอเมืองทั้งสิ้น (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 35 โครงการ 2,206 หน่วย เหลือขายประมาณ 1067 หน่วย) เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 61 ส่วนใหญ่ราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 16 ส่วนใหญ่ราคา 2-3 ล้านบาท อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 14 ส่วนใหญ่ราคา 2-3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝดร้อยละ 9 ผู้ประกอบการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเพียงรายเดียวเท่านั้น คือ แสนสิริ ทำเพียง 1 โครงการ 180 หน่วย
จังหวัดตาก จาการสำรวจพบว่ามีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ระหว่างการขาย 11 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 356 หน่วย เหลือขายประมาณ 222 หน่วย อำเภอเมือง 6 โครงการ 178 หน่วย อำเภอแม่สอด 5 โครงการ 178 หน่วย เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 63 ราคา 2-3 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 10 ราคา 3-5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 23 ราคา 5-7.5 ล้านบาท ทั้งทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์พักอาศัยราคาสูงกว่าบ้านเดี่ยว เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ใน อำเภอแม่สอดเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นอำเภอการค้าชายแดนของจังหวัดตาก.-สำนักข่าวไทย