นายกฯ ให้ความสำคัญ พร้อมดูแลผู้สูงอายุ-เด็กปฐมวัย

ทำเนียบฯ 30 มี.ค.-นายกฯ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต สำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ” ย้ำรัฐบาลเตรียมความพร้อมดูแลกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กปฐมวัยให้เกิดผลสัมฤิทธิ์อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันชี้แจงกรณีเปิดสอบครูผู้ช่วย ไม่ได้ดูถูกครูที่มีอยู่เดิม แต่เป็นการปฏิรูปการศึกษา และขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันยืนยันเรื่องพลังงานจะไม่ให้ใครเข้ามาได้ประโยชน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต สำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ” ระหว่างรัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจาก 4 กระทรวง ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งการลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นการร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตในกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแผนยุทธศาสตร์ประเทศด้านสาธารณสุขและยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อรองรับการเป็นสังคมสูงอายุและความสมดุลของประชากรในวัยต่าง ๆ ที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ โดยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2564 ขณะที่กลุ่มวัยเด็กและวัยทำงานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุมีแนวโน้มลดลง มีปัญหาเด็กเกิดน้อยด้อยคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อประชากรวัยทำงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต จึงต้องมีการตั้งเป้าหมาย “เด็กไทยเติบใหญ่มีคุณภาพ ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม มุ่งสู่ประเทศไทย 4.0” ในปี 2564

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า การลงนามวันนี้ เป็นสิ่งยืนยันเจตนารมณ์เพื่อให้การดำเนินการเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง และรัฐบาลสนับสนุนทุกกระทรวงให้นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นและต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งงานของทุกกระทรวงต้องกำหนดผลสัมฤทธิ์ไว้ล่วงหน้า เพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย ขจัดอุปสรรคต่าง ๆ และวันนี้รัฐบาลพยายามเดินหน้าไปสู่การปฎิรูป แม้จะมีคนบางส่วนไม่เข้าใจการดำเนินงานของรัฐบาลทั้งหมด แต่ก็ต้องมีความพยายามสร้างความเข้าใจ


“รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุที่จะมีเพิ่มขึ้นมาก และในฐานะที่สังคมไทยต้องดูแลพ่อแม่ผู้สูงอายุด้วย โดยรัฐบาลต้องดูสวัสดิการทางสังคม ไม่ให้ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง เพราะลูกหลานต้องเข้ามาทำงานในเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันหาแนวทางที่จะทำอย่างไรให้ครอบครัวได้ติดต่อกัน มีความใกล้ชิดครอบครัว เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีความสุข รัฐต้องหาแนวทางคืนคนให้กลับสู่ท้องถิ่น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม กระจายรายได้อาชีพไปสู่ต่างจังหวัด ลดความแออัดในกรุงเทพฯ ขณะที่คนในวัยเกษียณ 60 ปีขึ้นไป หากยังสามารถทำงานได้ ก็ต้องหางานที่เหมาะสมให้ทำ เช่นเดียวกับการดูแลทุกช่วงวัยที่รัฐบาลดูแล ตั้งแต่การตั้งครรภ์ของมารดา การศึกษา ซึ่งผมอยากให้เด็กทุกคนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณ แบ่งปันผู้อื่น มีหลักคิดที่ถูกต้อง เพราะถ้าตัวเราเองดี ทุกคนดี สังคมดี ประเทศก็จะเดินหน้าไปได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการศึกษาว่า รัฐบาลต้องการปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาใหม่ ทุกคนต้องมองปัญหาของชาติ และทุกคนทุกฝ่ายในระบบการศึกษาต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะเรื่องครูนั้น ตนไม่ได้ดูถูกครู ไม่ใช่ว่าจบครุศาสตร์ 5 ปีนั้นไม่ดีหรือสอนไม่ได้ แต่ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เปิดสอบครูผู้ช่วยนั้น เพื่อเปิดทางให้มีครูในสาขาที่ไม่เพียงพอได้เข้ามา เนื่องจากคะแนนของเด็กไทยในบางวิชานั้นต่ำกว่าเกณฑ์ แต่หากเปิดให้สาขาวิชาอื่นเข้ามาแล้วสร้างความรู้สึกที่ไม่ดี ก็ต้องหาแนวทางแก้ไข  ซึ่งอาจจะต้องประเมินผลครูผู้ช่วยทุก 6 เดือน และสอบครูให้ได้ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ตนหวังว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะไม่ถูกถอดถอน เพราะขณะนี้เกิดผลกระทบกับตัวรัฐมนตรีค่อนข้างมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องพลังงานว่า ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานความไว้วางใจของกันและกัน และขอให้ทุกคนเชื่อใจในการดำเนินการของรัฐบาล และขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าจะไม่ให้ใครเข้ามามีผลประโยชน์ในเรื่องนี้


“อยากให้ทุกคนอยู่บนความไว้วางใจผม และผมขอเอาชีวิตของผมยืนยันว่าจะไม่ปล่อยปละให้ใครเข้ามาได้ประโยชน์ และยืนยันว่าทหารไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปมีบทบาทในด้านพลังงาน ยืนยันว่าไม่มีอยู่ในความคิด หรือหากว่าจะมีคนอื่นคิด ผมก็จะไม่อนุญาต จึงขอให้เชื่อมั่นผมในส่วนนี้ และขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการ ซึ่งข้อมูลหลายอย่างที่ออกไปนั้นเป็นเรื่องของการพูดคุยในวงประชุมที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ซึ่งหากไม่เข้าใจกันก็จะทำให้เกิดความสับสนได้ และวันนี้ต้องนำความคิดเห็นของประชาชนเข้ามาพิจารณา ยืนยันว่าอะไรที่ไม่สามารถทำได้ ก็จะไม่ทำ เรื่องใดที่ไม่ถูกต้อง หรือส่อที่จะเสียผลประโยชน์ ก็จะไม่ให้ทำ ขอให้เชื่อมั่น และฝากผู้ว่าราชการและหัวหน้าส่วนทุกส่วนราชการ ช่วยทำความเข้าใจให้กับรัฐบาลด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจทำงาน ส่วนราชการทุกส่วนก็เช่นเดียวกันที่ต้องทุ่มเททำงานและอธิบายต่อได้ ต้องสร้างความเข้าใจว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

“หากเราไม่เริ่มต้นทำในวันนี้ และถ้าหากยังคงขัดแย้งกันอยู่เช่นเดิม จะไม่มีอนาคตสำหรับประเทศไทย และไม่มีโอกาสทำอะไรอีกแล้วที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ผมไม่ได้ดูถูกใคร แต่คิดว่าหากสิ่งที่ทำวันนี้ ไม่ได้รับการสานต่อ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและกลับมาเช่นเดิม เราก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย สื่อมวลชนได้รอสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีบริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้า นายกรัฐมนตรี พูดว่า จะถามเรื่องอะไร ปิโตรเลียมหรือ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ยื่นเอกสารชี้แจงกรณีร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมและร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียมให้กับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า “เอาไป ผมเตรียมไว้ให้แล้ว ผมเขียนเองเมื่อเช้า และก็ลงตามนี้ด้วย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่มคัดค้านมายังบริเวณหน้ารัฐสภา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากทำผิดกฏหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี ให้รู้บ้างว่าการแก้ไขปัญหาตามระบบดำเนินการอย่างไร ไม่ใช่ใช้กฎหมู่อยู่ตลอด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]