นายกฯ ให้ความสำคัญ พร้อมดูแลผู้สูงอายุ-เด็กปฐมวัย

ทำเนียบฯ 30 มี.ค.-นายกฯ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต สำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ” ย้ำรัฐบาลเตรียมความพร้อมดูแลกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กปฐมวัยให้เกิดผลสัมฤิทธิ์อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันชี้แจงกรณีเปิดสอบครูผู้ช่วย ไม่ได้ดูถูกครูที่มีอยู่เดิม แต่เป็นการปฏิรูปการศึกษา และขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันยืนยันเรื่องพลังงานจะไม่ให้ใครเข้ามาได้ประโยชน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต สำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ” ระหว่างรัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจาก 4 กระทรวง ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งการลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นการร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตในกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแผนยุทธศาสตร์ประเทศด้านสาธารณสุขและยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อรองรับการเป็นสังคมสูงอายุและความสมดุลของประชากรในวัยต่าง ๆ ที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ โดยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2564 ขณะที่กลุ่มวัยเด็กและวัยทำงานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุมีแนวโน้มลดลง มีปัญหาเด็กเกิดน้อยด้อยคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อประชากรวัยทำงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต จึงต้องมีการตั้งเป้าหมาย “เด็กไทยเติบใหญ่มีคุณภาพ ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม มุ่งสู่ประเทศไทย 4.0” ในปี 2564

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า การลงนามวันนี้ เป็นสิ่งยืนยันเจตนารมณ์เพื่อให้การดำเนินการเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง และรัฐบาลสนับสนุนทุกกระทรวงให้นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นและต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งงานของทุกกระทรวงต้องกำหนดผลสัมฤทธิ์ไว้ล่วงหน้า เพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย ขจัดอุปสรรคต่าง ๆ และวันนี้รัฐบาลพยายามเดินหน้าไปสู่การปฎิรูป แม้จะมีคนบางส่วนไม่เข้าใจการดำเนินงานของรัฐบาลทั้งหมด แต่ก็ต้องมีความพยายามสร้างความเข้าใจ


“รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุที่จะมีเพิ่มขึ้นมาก และในฐานะที่สังคมไทยต้องดูแลพ่อแม่ผู้สูงอายุด้วย โดยรัฐบาลต้องดูสวัสดิการทางสังคม ไม่ให้ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง เพราะลูกหลานต้องเข้ามาทำงานในเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันหาแนวทางที่จะทำอย่างไรให้ครอบครัวได้ติดต่อกัน มีความใกล้ชิดครอบครัว เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีความสุข รัฐต้องหาแนวทางคืนคนให้กลับสู่ท้องถิ่น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม กระจายรายได้อาชีพไปสู่ต่างจังหวัด ลดความแออัดในกรุงเทพฯ ขณะที่คนในวัยเกษียณ 60 ปีขึ้นไป หากยังสามารถทำงานได้ ก็ต้องหางานที่เหมาะสมให้ทำ เช่นเดียวกับการดูแลทุกช่วงวัยที่รัฐบาลดูแล ตั้งแต่การตั้งครรภ์ของมารดา การศึกษา ซึ่งผมอยากให้เด็กทุกคนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณ แบ่งปันผู้อื่น มีหลักคิดที่ถูกต้อง เพราะถ้าตัวเราเองดี ทุกคนดี สังคมดี ประเทศก็จะเดินหน้าไปได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการศึกษาว่า รัฐบาลต้องการปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาใหม่ ทุกคนต้องมองปัญหาของชาติ และทุกคนทุกฝ่ายในระบบการศึกษาต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะเรื่องครูนั้น ตนไม่ได้ดูถูกครู ไม่ใช่ว่าจบครุศาสตร์ 5 ปีนั้นไม่ดีหรือสอนไม่ได้ แต่ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เปิดสอบครูผู้ช่วยนั้น เพื่อเปิดทางให้มีครูในสาขาที่ไม่เพียงพอได้เข้ามา เนื่องจากคะแนนของเด็กไทยในบางวิชานั้นต่ำกว่าเกณฑ์ แต่หากเปิดให้สาขาวิชาอื่นเข้ามาแล้วสร้างความรู้สึกที่ไม่ดี ก็ต้องหาแนวทางแก้ไข  ซึ่งอาจจะต้องประเมินผลครูผู้ช่วยทุก 6 เดือน และสอบครูให้ได้ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ตนหวังว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะไม่ถูกถอดถอน เพราะขณะนี้เกิดผลกระทบกับตัวรัฐมนตรีค่อนข้างมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องพลังงานว่า ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานความไว้วางใจของกันและกัน และขอให้ทุกคนเชื่อใจในการดำเนินการของรัฐบาล และขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าจะไม่ให้ใครเข้ามามีผลประโยชน์ในเรื่องนี้


“อยากให้ทุกคนอยู่บนความไว้วางใจผม และผมขอเอาชีวิตของผมยืนยันว่าจะไม่ปล่อยปละให้ใครเข้ามาได้ประโยชน์ และยืนยันว่าทหารไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปมีบทบาทในด้านพลังงาน ยืนยันว่าไม่มีอยู่ในความคิด หรือหากว่าจะมีคนอื่นคิด ผมก็จะไม่อนุญาต จึงขอให้เชื่อมั่นผมในส่วนนี้ และขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการ ซึ่งข้อมูลหลายอย่างที่ออกไปนั้นเป็นเรื่องของการพูดคุยในวงประชุมที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ซึ่งหากไม่เข้าใจกันก็จะทำให้เกิดความสับสนได้ และวันนี้ต้องนำความคิดเห็นของประชาชนเข้ามาพิจารณา ยืนยันว่าอะไรที่ไม่สามารถทำได้ ก็จะไม่ทำ เรื่องใดที่ไม่ถูกต้อง หรือส่อที่จะเสียผลประโยชน์ ก็จะไม่ให้ทำ ขอให้เชื่อมั่น และฝากผู้ว่าราชการและหัวหน้าส่วนทุกส่วนราชการ ช่วยทำความเข้าใจให้กับรัฐบาลด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจทำงาน ส่วนราชการทุกส่วนก็เช่นเดียวกันที่ต้องทุ่มเททำงานและอธิบายต่อได้ ต้องสร้างความเข้าใจว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

“หากเราไม่เริ่มต้นทำในวันนี้ และถ้าหากยังคงขัดแย้งกันอยู่เช่นเดิม จะไม่มีอนาคตสำหรับประเทศไทย และไม่มีโอกาสทำอะไรอีกแล้วที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ผมไม่ได้ดูถูกใคร แต่คิดว่าหากสิ่งที่ทำวันนี้ ไม่ได้รับการสานต่อ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและกลับมาเช่นเดิม เราก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย สื่อมวลชนได้รอสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีบริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้า นายกรัฐมนตรี พูดว่า จะถามเรื่องอะไร ปิโตรเลียมหรือ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ยื่นเอกสารชี้แจงกรณีร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมและร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียมให้กับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า “เอาไป ผมเตรียมไว้ให้แล้ว ผมเขียนเองเมื่อเช้า และก็ลงตามนี้ด้วย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่มคัดค้านมายังบริเวณหน้ารัฐสภา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากทำผิดกฏหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี ให้รู้บ้างว่าการแก้ไขปัญหาตามระบบดำเนินการอย่างไร ไม่ใช่ใช้กฎหมู่อยู่ตลอด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]