กทม.28 มี.ค.- ผบ.ตร.ชี้ “ชัยภูมิ ป่าแส “พัวพันยาเสพติด ย้ำผู้รับผิดชอบทำคดีตรงไปตรงมา ด้านรองโฆษก ตร.แจงกรณีสัมคมโซเชียลเรียกร้องเปิดวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีทหารกองกำลังผาเมืองวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ นักกิจกรรมชาติพันธุ์ล่าหู่ ประธานเครือข่ายเยาวชนต้นกล้า ฐานครอบครองยาเสพติด โดยอ้างว่ามีการต่อสู้ขัดขืนและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผานมาว่า พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จะนำหลักฐานตรงจากกล้องวงจรปิด ไปรวมกับพยานหลักฐานอื่น ซึ่งกำชับให้ทำคดีตรงไปตรงมา คดีไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่หนักใจที่มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งเป็นคดียาเสพติดทั่วไป เจ้าหน้าที่ไม่ยิง อีกฝ่ายก็ยิง พูดตามหลักกว้างไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มาตัวเปล่าอยู่แล้ว ภาพรวมมันเป็นแบบนี้ ซึ่งล.ต.ท.พูลทรัพย์ รายงานว่านายชัยภูมิ มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีสังคมเรียกร้องให้เปิดวงจรปิดในที่เกิดเหตุนั้น ตามหลักการพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาทำความผิดจริงหรือไม่ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพยานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำความผิดตำรวจก็ต้องดำเนินการ การเปิดข้อมูลวงจรปิดหรืออะไรก็ตามที่อยู่ในสำนวนแล้วกระทบรูปคดีจะไม่สามารถเปิดเผยได้ ทุกอย่างมีหลักการและแบบแผน นอกจากบุคคลที่เกี่ยวข้องขอให้เปิดเผย อย่างไรก็ตามทางกองทัพไม่ได้ส่งสัญญานใดๆมา เพราะการสืบสวนสอบสวนเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน โดยทำเป็น 3 ส่วน คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด, คดีเกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ และกรณีทหารที่วิสามัญฆ่ตกรรมโดยอ้างว่า กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งการดำเนินคดีทั้ง 3 ส่วนจะว่าไปตามกฎกรอบของกฎหมาย ส่วนจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย