กรุงเทพฯ 25 มี.ค. – ภาคอสังหาริมทรัพย์ขานรับการแก้กฎหมายลีสโฮลด์เป็น 50 ปี ชี้เป็นผลดีกับเศรษฐกิจประเทศ เสนอกำหนดพื้นที่และธุรกิจสำหรับการเช่าของชาติ เพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคง วัฒนธรรม และอาชีพหลักคนไทย
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลังกำลังศึกษาแนวทางแก้ไขกฎหมายเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือลีสโฮลด์ เพิ่มระยะเวลาการเช่าจาก 30 ปี เป็น 50 ปี ว่า เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มและการใช้ที่ดินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากสัญญาเช่าซื้อยาวขึ้น ทำให้เอกชนสามารถพัฒนารูปแบบการลงทุนให้มีความหลากหลายเพิ่มการลงทุนโครงการขนาดใหญ่และเพิ่มเม็ดเงินให้แก่ระบบเศรษฐกิจอีกมหาศาล นอกจากนี้ การขยายระยะเวลาการเช่าซื้อเป็น 50 ปี ยังเปิดโอกาสให้คนมีที่ดินแต่ไม่อยากขายสามารถปล่อยให้เช่ายาวขึ้น สร้างกระแสเงินสดให้กับเจ้าของที่ดินที่จะนำมาชำระภาษีตามกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่คาดว่าจะบังคับใช้ปี 2562 และอัตราการชำระภาษีจะต่ำลงเพราะมีการใช้ที่ดิน ขณะเดียวกันจะเป็นประโยชน์กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถเช่าที่ดินเพิ่มในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะย่านใจกลางเมือง ซึ่งต้นทุนการเช่าจะลดลง เพราะระยะเวลาเช่านานขึ้น
“บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายใช้พื้นที่เดิมพัฒนาโครงการใหม่ให้เป็นศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เนื่องจากครบระยะเวลาเช่า 30 ปี ก็จะมีการต่อสัญญาใหม่ แต่ถ้ากฎหมายลีสโฮลด์ขยายเวลาเป็น 50 ปี ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีระยะเวลาคืนทุนหรือผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอเสนอแนะข้อระวังเกี่ยวกับการให้ต่างชาติเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ยาวขึ้น ควรกำหนดพื้นที่และประเภทธุรกิจสำหรับการให้เช่าซื้อของต่างชาติ เพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคง วัฒนธรรมของประเทศ และกระทบอาชีพหลักคนไทย เช่น กำหนดไม่ให้ต่างชาติทำนา เพราะหากแก้ไขภายหลังอาจจะเกิดปัญหา” นายประเสริฐ กล่าว
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า เห็นด้วย เพราะจะเป็นผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การเช่าซื้อถูกต้องตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาการเช่าอสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติมีปัญหาเรื่องการใช้นอมินีที่เป็นคนไทยจัดตั้งบริษัท โดยต่างชาติถือหุ้นร้อยละ 49 และคนไทยถือร้อยละ 51 มาเช่าอสังหาริมทรัพย์ในไทย ดังนั้น หากขยายระยะเวลาการเช่าเป็น 50 ปี ก็จะเปิดโอกาสให้ทั้งต่างชาติและคนไทยสามารถเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้อย่างนานขึ้น และไม่ต้องใช้นอมินีเหมือนที่ผ่านมา
นายอิสระ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวยังช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจทางหนึ่ง ทำให้เกิดการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น รองรับการเช่าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่ง ขยายตัวตามไปด้วย และเกิดการจ้ารงงานจากการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ และยังเป็นการเชื่อมโยงให้นักลงทุนจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และนักลงทุนทั่วโลกสามารถเข้ามาเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ซึ่งในต่างประเทศกฎหมายดังกล่าวมีระยะเวลา 50 ปีขึ้นไป พร้อมเสนอแนะว่าปัจจุบันมี พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม พ.ศ.2542 ที่กำหนดการเช่าไว้ที่ 50 ปี ดังนั้น หากเพิ่มการเช่าซื้อที่อยู่อาศัยจะสามารถดำเนินการได้ทันที โดยอาจจะระบุเงื่อนไขว่าไม่รวมพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับเกษตรกร
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การแก้กฎหมยดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียมระดับหรู เพราะนักลงทุนต่างชาติจะมีระยะเวลาเช่ามากขึ้น ขณะเดียวกันกระตุ้นให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กล้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เพราะผลตอบแทนโครงการจะนานขึ้น เมื่อเกิดการลงทุนจะช่วยสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย