ดัชนีเชื่อมั่นอสังหาฯ กทม.-ปริมณฑล ไตรมาส 3/67 ลดลง-4.6 จุด ต่ำกว่าค่ากลาง 7 ไตรมาสติด

กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. (REIC) เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 3/67 ที่ระดับ 45.1 ลดลง-4.6 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -0.1 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2567 ภาพรวมต่ำกว่าค่ากลางติดต่อกัน 7 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 สะท้อนภาพผู้ประกอบการฯ มเชื่อมั่นภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ลดลงต่อเนื่อง แต่คาดหวังอีก 6 เดือนข้างหน้าความเชื่อมั่นจะเพิ่มมากขึ้น
 
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. (REIC) เปิดเผยว่า REIC ได้ติดตามสถานการณ์ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550-ปัจจุบัน พบว่า ณ ไตรมาส 3 ปี 2567 ผู้ประกอบการฯ มีความเชื่อมั่นลดลงเกือบทุกด้านเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยพบว่า ความเชื่อมั่นฯ ด้านยอดขายลดลงมากที่สุด -6.6 จุด อยู่ที่ระดับ 40.7 (จากระดับ 47.3 ในไตรมาสก่อน) รองลงมาเป็นความเชื่อมั่นฯ ด้านการลงทุนลดลง -0.2 จุด อยู่ที่ระดับ 47.4 (จากระดับ 47.6 ในไตรมาสก่อน) ในขณะที่ความเชื่อมั่นฯ ด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้น 2.5 จุด อยู่ที่ระดับ 42.0 (จากระดับ 39.5 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่เพิ่มขึ้น 1.6 จุด อยู่ที่ระดับ 50.7 (จากระดับ 49.1 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ที่เพิ่มขึ้น 1.5 จุด อยู่ที่ระดับ 40.4 (จากระดับ 38.9 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 0.9 จุด อยู่ที่ระดับ 49.6 (จากระดับ 48.7 ในไตรมาสก่อน) แต่ค่าดัชนีเกือบทุกด้าน อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50.0


เมื่อจำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่าความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่มListed Companies หรือกลุ่มบริษัทมหาชน ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีค่าดัชนีระดับ 47.9 น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีระดับ 52.2 และน้อยกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจในภาวะปัจจุบันลดลง และมีแนวโน้มที่จะวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่า ความเชื่อมั่นฯ ด้านยอดขายมีค่าลดลงมากที่สุด อยู่ที่ระดับ 43.8 (จากระดับ 59.6 ในไตรมาสก่อน) รองลงมาเป็นความเชื่อมั่นฯ ด้านการลงทุนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.1 (จากระดับ 57.7 ในไตรมาสก่อน) ด้านการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.1(จากระดับ 57.7 ในไตรมาสก่อน) และด้านผลประกอบการลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.7 (จากระดับ 50.0 ในไตรมาสก่อน) แต่มีความเชื่อมั่นฯ 2 ด้านที่ค่าดัชนีเพิ่มขึ้น ได้แก่ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39.6 (จากระดับ 36.5ในไตรมาสก่อน) และด้านการจ้างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 52.1 (จากระดับ 51.9 ในไตรมาสก่อน)
 
ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies หรือผู้ประกอบการรายกลาง-รายย่อย มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ที่ระดับ 41.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ระดับ 34.6 แต่ยังต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจในภาวะปัจจุบันลดลงเช่นเดียวกับกลุ่ม Listed Companies แต่มีทิศทางแนวโน้มที่คลายความวิตกกังวลได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ Non-listed Companies ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นเกือบทุกด้านเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยพบว่า ความเชื่อมั่นฯ ด้านการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 48.6 (จากระดับ 36.3 ในไตรมาสก่อน) รองลงมาเป็นความเชื่อมั่นฯ ด้านผลประกอบการ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 33.3 (จากระดับ 23.8 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 40.3 (จากระดับ 32.5 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 36.1 (จากระดับ 28.8 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านการจ้างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 45.8 (จากระดับ 43.8) แต่มีความเชื่อมั่นฯ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 41.7 (จากระดับ 42.5 ในไตรมาสก่อน) (ดูตารางที่ 1 และแผนภูมิที่ 1) 


สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) พบว่าค่าดัชนีอยู่ในระดับ 51.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่มีค่าดัชนีระดับ 51.4 โดยเพิ่มขึ้น 0.2 จุด ซึ่งค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการฯ มีความเชื่อมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หากพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าความเชื่อมั่นฯ ด้านยอดขายเพิ่มขึ้น 3.4 จุด มาอยู่ที่ระดับ 57.8 (จากระดับ 54.4 ในไตรมาสก่อน) รองลงมาเป็นความเชื่อมั่นฯ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) มีระดับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 2.9 จุด อยู่ที่ระดับ 37.5 (จากระดับ 34.6 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.2 จุด อยู่ที่ระดับ 52.4 (จากระดับ 50.2 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้น 2.0 จุด อยู่ที่ระดับ 53.0 (จากระดับ 51.0 ในไตรมาสก่อน) ทั้งนี้ มีความเชื่อมั่นฯ 2 ด้านที่มีค่าดัชนีลดลงจากไตรมาสก่อน ได้แก่ ความเชื่อมั่นฯ ด้านการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ลดลง -6.3 จุด อยู่ที่ระดับ 58.1 (จากระดับ 64.4 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านการลงทุนลดลง -3.1 จุด อยู่ที่ระดับ 51.0 (จากระดับ 54.1 ในไตรมาสก่อน) 

เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่า กลุ่มListed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 51.8 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีระดับ 54.9 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่มีความเชื่อมั่นลดลงจากไตรมาสก่อน หากพิจารณาความเชื่อมั่นในแต่ละด้านพบว่า กลุ่ม Listed Companies มีความเชื่อมั่นลดลงเกือบทุกด้าน โดยความเชื่อมั่นฯ ด้านการลงทุนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 (จากระดับ 57.7 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านผลประกอบการลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.3 (จากระดับ 58.3 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 62.5 (จากระดับ 67.3 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านยอดขายลดลง อยู่ที่ระดับ 58.3 (จากระดับ 61.5 ในไตรมาสก่อน) แต่มีความเชื่อมั่นฯ 2 ด้านที่มีค่าดัชนีเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ได้แก่ ความเชื่อมั่นฯ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 37.5 (จากระดับ 32.7 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านการจ้างงานเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 52.1 (จากระดับ 51.9 ในไตรมาสก่อน)

ขณะที่ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีระดับ 46.3 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความเชื่อมั่นและมีมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้ามากขึ้น หากพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าความเชื่อมั่นฯ ด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 54.2 (จากระดับ 40.0 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56.9 (จากระดับ 43.8 ในไตรมาสก่อน) ความเชื่อมั่นฯ ด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 55.6 (จากระดับ 48.8 ในไตรมาสก่อน) และความเชื่อมั่นฯ ด้านการจ้างงานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.8 (จากระดับ 47.5 ในไตรมาสก่อน) ในขณะที่ความเชื่อมั่นฯ ด้านการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.4 (จากระดับ 60.0 ในไตรมาสก่อน) ส่วนความเชื่อมั่นฯ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) มีระดับความเชื่อมั่นคงเดิมที่ระดับ 37.5 (ดูตารางที่ 2 และ แผนภูมิที่ 2). -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย