ภูมิภาค 10 พ.ย.-กลุ่มพัฒนาอาชีพคนพิการ จ.ปราจีนบุรี รวมตัวโยกรถสามล้อ เข้ากทม. กราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้าน ด.ช.เหมันต์ วัย 9 ขวบ วิ่งมาจากจากบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ วันนี้ถึงปทุมฯ แล้ว
กลุ่มพัฒนาอาชีพคนพิการอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี รวบรวมสมาชิก 9 คนพร้อมกับรถสามล้อโยก 9 คัน มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนสาย 304 ถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยในสำนึกพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยเฉพาะการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในจังหวัดปราจีนบุรี โครงการห้วยโสมง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยแต่ละครั้งเมื่อมีภัยพิบัติน้ำท่วม ก็จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือ รวมถึงพระราชทานถุงยังชีพและยังทรงห่วงใยพสกนิกรชาวจังหวัดปราจีน โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนม และรถฉุกเฉินโรงพยาบาลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้านจราจร จนส่งถึงสามแยกหนองปลาตะเพียน แล้วให้หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา รับช่วงต่อไป
ส่วนที่ ถนนสายเอเชียในเขตจังหวัดอ่างทอง ส.ต.ฉลวย ทรายเพชร อายุ 31 ปี ทหารนอกราชการ ที่พิการกระดูกสันหลังหัก ออกจากบ้านพักใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เมื่อ 7 พ.ย.59 เดินทางโดยใช้รถจักรยานยนต์ดัดแปลง 3 ล้อ ติดธงชาติและธงปรมาภิไธย และคล้องพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่คอด้วย โดยระหว่างเดินทางถึงจังหวัดตาก ได้พบกับนายหลู เชียมลาย อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่าประหล่อง ดอยอ่างขาง แห่งบ้านนอแล จ.เชียงใหม่ พร้อมกับ น.ส.เสน่ห์ ธรรมมะแสง อายุ 25 ปี ภรรยา และลูกชาย 2 คน โดยลูกชาย 1 คนของนายหลู นั้นป่วยแขนขาซึ่งเดินทางโดยรถจักยานยนต์พ่วงข้างที่ติดพระบรมฉายาลักษณ์และธงชาติไทยรอบคัน ทั้งหมดตั้งใจจะเดินทางไปถวายบังคมพระบรมศพ ที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ นอกจากนั้น ยังมีนายชัชวาลย์ ทิศสว่าง อายุ 50 ปี ชาวจังหวัดลำพูน อดีตแชมป์นักมวยไทย ของเวทีราชดำเนิน และลุมพินี เมื่อปี พ.ศ.2527-2528 และ นายนัด พงษ์สุพร อายุ 37 ปี ชาวอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ก็เดินเท้าจากบ้านพักมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปกราบพระบรมศพเช่นกัน ทั้งหมดเดินทางถึงจังหวัดอ่างทองแล้ว และจะเดินทางต่อไปพักค้างคืนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยความตั้งใจ ไม่ย่อท้อ เพื่อเป็นแสดงถึงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน
เด็กชาย เหมันต์ มงคลดี อายุ 9 ปี นักมวยเด็กยอดกตัญญู ที่วิ่งมาจากจากบ้านเกิด ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเข้าไปถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามที่ได้ตั้งใจไว้ โดยมีนางจรรยา เก่งนอก มารดา วิ่งตามให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด และนายรายง มงคลดี ผู้เป็นพ่อขับรถยนต์ตาม วันนี้ถึงจังหวัดปทุมธานีแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.กก.1บก.ทล. และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ปทุมธานี ดูแลความปลอดภัย ทั้งนี้เด็กชาย เหมันต์ มงคลดี ได้แวะสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ 1 และเหลืออีก 60 กิโลเมตรจะถึงสนามหลวง
เด็กชาย เหมันต์ บอกว่าเรียนอยู่ชั้น ป.4 ที่ จ.บุรีรัมย์ ต่อยมวยมาตั้งแต่เด็กเมื่อทราบข่าวว่าการสวรรคต ก็รู้สึกเสียใจและอยากจะทำดีเพื่อพ่อ โดยวิ่งมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.
ส่วนนางจรรยา มารดา บอกว่าลูกไปต่อยมวยที่จังหวัดจันทบุรี กลับมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค. และเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ทราบข่าวการสวรรคตก็รู้สึกเสียใจกันทั้งบ้าน โดยลูกบอกกับตนเองว่าจะวิ่งไปสักการะพระบรมศพ ที่สนามหลวง แต่ร่างกายของลูกยังไม่สบายอยู่ ต่อมาพอหายดีแล้ว ลูกจึงชวนตนเองวิ่งเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งตนเองก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกว่าอายุเพียง 9 ขวบก็มีมานะวิ่งได้ขนาดนี้ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกการจราจรให้เส้นทาง.-สำนักข่าวไทย