ก.ยุติธรรม 5 ม.ค.-ดีเอสไอ–ปปง. ร่วมประชุมคืบหน้าคดี ‘เสี่ยวิชัย’ปล่อยเงินกู้นอกระบบ พบมีชื่ออดีตนักการเมืองหญิง เกี่ยวข้องกับเครือข่ายฯ
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีปล่อยเงินกู้นอกระบบเครือข่ายของนายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้อง หาตามหมายจับ ว่า หลังจากได้เรียกประชุมร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อวิเคราะห์ธุรกรรมหาบุคคลที่มีธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องทั้งหมด พบว่า มีรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 ชุด
ชุดแรกคือเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่มีส่วนได้เสียรับเงินจากขบวนการของ ‘เสี่ยวิชัย’ กว่า 1,000 รายชื่อ แต่สกัดออกมาเป็นรายชื่อที่มีหลักฐานการรับเงินชัดเจนรวม 165 รายชื่อ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รายชื่อทั้งหมดส่งให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ดำเนินการต่อไป
ชุดที่2 เป็นบุคคลที่อยู่สูงกว่านายวิชัย เป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม รวมอีกประมาณ 2-3 คน หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงเคยเล่นการเมือง ตรวจสอบพบมีการโอนเงินถึง 46.6 ล้านบาทมาให้นายวิชัย ส่วนที่เหลือโอนมาให้ประมาณ 3-4 ล้านบาท สันนิษฐานว่าโอนเข้ามาให้นำไปต่อยอดกิจการปล่อยเงินกู้ โดยตรวจพบในช่วงปี 2555 ทั้งหมดมีเอกสารหลักฐานทางการเงินชัดเจน
หลังจากนี้จะให้ทางปปง.ไปตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินเพิ่มเติม เพราะส่งเรื่องมาล่าสุดถึงช่วงกุมภาพันธ์ 2558 และเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจะทำเรื่องออกหมายเรียกผู้มีรายชื่อดังกล่าวเข้ามาชี้แจง พร้อมประสานไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ทำเรื่องตรวจสอบบุคคลกลุ่มดังกล่าว ว่าสมัยดำรงตำแหน่ง ได้ชี้แจงทรัพย์สินในส่วนดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.หรือไม่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ดุษฎี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของนายวิชัย ว่าได้รับการประสานจากทนายความนายวิชัยว่า ยังคงอยากมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แต่ขณะนี้ยังอยู่ที่กัมพูชา เมื่อพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินตามกฎหมาย เรื่องนี้ที่นายวิชัยยังไม่ยอมเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่เชื่อว่า น่าจะรอการตัดสินใจอยู่ใน 2 ประเด็น 1.กลัวว่าจะสาวไปถึงบุคคลที่อยู่เหนือกว่านายวิชัย และ 2.กลัวว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว ประเด็นนี้ ได้คุยกับทางดีเอสไอ แล้ว ว่าเป็นคดีที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะออกไปข่มขู่ลูกหนี้ที่มีกว่า 170,000 คนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ล่าสุดพบมีรายกว่า มีลูกหนี้บางพื้นที่มีคนมาข่มขู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นในพื้นที่ห่างไกลที่ตำรวจเข้าไปไม่ถึง จึงได้ประสายท้องถิ่นเข้าไปดูแล.-สำนักข่าวไทย