ตร.รวบเจ้าของโรงงานจิวเวลรี่ย่านปิ่นเกล้า หลังรับซื้อของโจรจากแก๊งโคลอมเบีย

กรุงเทพฯ 8 ม.ค. 60 – ตำรวจขยายผลบุกจับเจ้าของโรงงานจิวเวลรี่ย่านปิ่นเกล้า หลังรับซื้อของโจรจากแก๊งโคลอมเบีย ที่ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน พร้อมส่งเรื่องให้ ปปง.อายัดทรัพย์สิน


เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รักษาราชการแทน สบ 10 นำกำลังตำรวจ พร้อมหมายจับเข้าจับกุม น.ส.กาญจนา ประสงค์เสรีนนท์ และนายชัชวาล เหล้าวรรณะ เจ้าของบ้านเลขที่ 18/545 ซอย 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด ที่เป็นโรงงานรับแปรรูปเครื่องเพชรและทองรูปพรรณอีกครั้ง หลังพบ 4 ผู้ต้องหาชาวโคลอมเบีย นำทรัพย์สินทั้งทองรูปพรรณ เครื่องเพชร และพระเครื่อง ที่ได้จากการลักทรัพย์บ้านพักของผู้พิพากษาในจังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ไปขายให้โรงงานดังกล่าว และเมื่อช่วงสายวานนี้ขณะเข้าตรวจค้นตามคำให้การของผู้ต้องหา พบว่า น.ส.กาญจนา และนายชัชวาล มีอาการและให้การพิรุธ จนได้รับการยืนยันจากผู้เสียหายว่ามีทรัพย์สินบางส่วนที่ถูกลักทรัพย์ไปอยู่ในโรงงานดังกล่าว วันนี้ พล.ต.ท.สุวิระ จึงนำกำลังพร้อมหมายจับและพาผู้เสียหาย เข้าตรวจค้นขยายผลและชี้จุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง

พล.ต.ท.สุวิระ ระบุพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มโคลอมเบีย จะใช้วิธีกดกริ่งตามบ้านพักหรู หากพบไม่มีผู้อยู่อาศัยจะเข้าโจรกรรมพุ่งเป้าที่ตู้เซฟ ก่อนจะยกมาทำการตัดตู้และนำทองรูปพรรณ และเครื่องเพชร หรือพระเครื่อง ที่ทำกรอบทองหรือกรอบเพชร ขายให้กับผู้ต้องหาทั้งสอง โดยในคดีของบ้านพักผู้พิพากษา ผู้ต้องหาทั้งสองรับซื้อทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท ในราคาเพียง 450,000 บาท ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งสองจะแปรสภาพทรัพย์สินที่รับซื้อมาเพื่อเตรียมนำไปขายต่ออีกทอด โดยจากข้อมูลของตำรวจ พบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรับซื้อกับกลุ่มผู้ต้องหาชาวโคลอมเบีย 4 ครั้ง ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนไทยร่วมในการโจรกรรมกับกลุ่มผู้ต้องหาโคลอมเบีย แต่มีเพียงคนไทยที่ให้ข้อมูลและประสานนำทรัพย์สินที่ได้มาจากการโจรกรรมมาขายต่อตามแหล่งต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผล


นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุวิระ ยังระบุอีกว่า จากข้อมูลพบกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นชาวโคลอมเบียยังมีหลบซ่อนในประเทศไทยอีก 139 ราย ทั้งที่เดินทางเข้ามาถูกต้องและไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จะสืบสวนจับกุมต่อไป และขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่เคยถูกโจรกรรมในลักษณะนี้ ให้เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินได้ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม เพราะยังมีทรัพย์สินกว่าอีก 100 รายการ ที่ยังไม่มีเจ้าของมาแสดงตัว เพื่อจะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันรับซื้อของโจรและเปิดสถานประกอบกิจการรับซื้อของเก่า โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้วส่งเรื่องถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบหาที่มาของทรัพย์ทั้งหมด เพราะจากข้อมูลของพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองยังมีทรัพย์สินเป็นบ้านเรือนไทยขนาดใหญ่ใน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าการได้มาของทรัพย์สินทั้งหมดมาอย่างถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ หากได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ต้องดำเนินการยึดทรัพย์ เพื่อนำทรัพย์เข้าสู่แผ่นดินและคืนให้กับเจ้าทรัพย์ต่างๆ พร้อมพิจารณาแจ้งข้อหาฟอกเงินกับผู้ต้องหาทั้งสองด้วย

ด้าน น.ส.ลัคนา แซ่ตั้ง ภรรยาของนายนพรัตน์ บุญจร ผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าของทรัพย์สินที่ถูกกลุ่มคนร้ายโคลอมเบียโจรกรรมมาขายยังโรงงานแปรรูปดังกล่าว กล่าวว่า ดีใจเมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่จับกลุ่มคนร้ายและติดตามทรัพย์สินคืนได้บางส่วน โดยในวันนี้หลังจากเข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในโรงงานดังกล่าวพบว่าทรัพย์สินหลายชิ้น ถูกแปรสภาพไปจากเดิมแล้ว ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเสียใจเพราะทรัพย์สินทั้งหมดได้มาจากการทำงานเก็บออมและมาจากมารดาที่ให้ไว้ในวันสำคัญต่างๆ จากเหตุการณ์นี้ทำให้ได้อุทาหรณ์ว่าไม่ควรเก็บทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ ไว้เป็นจุดเดียว และไม่ควรเก็บทรัพย์สินที่มีค่ามากๆ ไว้ภายในบ้านพัก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว