กรุงเทพฯ 9 ม.ค.-แม่ทัพภาคที่ 4 เล็งขอเรือผลักดันน้ำไปช่วยพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา เผยพบปัญหาผู้สูงอายุไม่ยอมทิ้งบ้านไปอยู่ที่ปลอดภัย พร้อมส่งทีมแพทย์หมุนเวียนเข้าไปดูแล
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ทางโทรศัพท์ ถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ ว่า พื้นที่วิกฤติส่วนใหญ่อยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง รวมถึง อ.ระโนด จ.สงขลา ที่มีวาตภัยร่วมด้วย ล่าสุดได้สั่งการให้ทหารปืนใหญ่และทหารช่างในพื้นที่เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากลมพายุ ส่วนจังหวัดที่อยู่ฝั่งอันดามันจะเป็นลักษณะน้ำไหลผ่าน ไม่ใช่น้ำท่วมขัง เช่น กระบี่ ตรัง
พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนมีแนวคิดขอแบ่งเรือผลักดันน้ำที่ติดตั้งอยู่ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มาช่วยที่ อ.ระโนด จ.สงขลา แต่ต้องให้ทหารในพื้นที่และกองทัพเรือประเมินร่วมกันก่อนว่า 2 จุดที่ติดตั้ง คือ ที่ อ.ปากพนัง และ อ.ชะอวด ระดับน้ำลดลงตามเป้า แล้วค่อยขอแบ่งมาที่ อ.ระโนด ซึ่งเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือจะช่วยทำให้น้ำไหลลงทะเลได้เร็วขึ้น เพราะหากปล่อยให้น้ำไหลตามปกติก็จะติดขยะ วัชพืช หรือตะกอนดินต่าง ๆ
“ยังเอาอยู่ แต่ก็ต้องสู้กับธรรมชาติกันต่อ เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า วันพรุ่งนี้จะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคใต้และอาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกค่ายเปิดต้อนรับประชาชนเข้าไปพักพิงชั่วคราว” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว
พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวอีกว่า หนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบขณะนี้ คือ มีผู้สูงอายุบางส่วนไม่ยอมย้ายออกจากบ้านพักที่มีน้ำท่วมสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถบังคับได้ ต้องใช้ความสมัครใจ สิ่งที่ทำได้ คือ ให้ทหาร ทีมแพทย์หมุนเวียนเข้าไปดูแล เพราะไม่สามารถจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากกำลังไม่พอเพียง
“ตอนนี้พบอยู่ 4-5 เคสที่ไม่ยอมออกจากบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่ อายุ 70 ปีขึ้นไปที่เป็นห่วงบ้าน ผมพยายามขอร้องให้ย้ายออกชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ไม่ยอม ขอเบอร์โทรศัพท์ลูกเพื่อให้ลูกช่วยคุยก็ไม่ให้ บอกว่าจำเบอร์ลูกไม่ได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน จะอุ้มออกมาเลยก็ไม่ได้ ตอนนี้เลยให้เจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปดู” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย