สพฉ.16 ม.ค.-สพฉ.เปิดข้อมูลผู้ป่วยวิกฤตเสียชีวิตก่อนถึง รพ.สูงกว่าร้อยละ 20 เหตุจากปัญหาจราจรติดขัด-คนไม่หลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน วอนช่วยหลีกทางให้รถพยาบาลเพื่อต่อชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน
ภายหลังจากโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปที่จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรณีรถกระบะคันหนึ่งไม่หลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ขับปาดหน้า และต่อว่าเจ้าหน้าที่ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยฉุกเฉินในรถพยาบาลนั้น นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ว่า ที่ผ่านมา สพฉ.พยายามรณรงค์ให้มีการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน แต่ก็เกิดเหตุการณ์แบบคลิปที่มีการส่งต่อในโลกออนไลน์ในกรณีที่มีรถไม่หลีกทางหรือให้ทางกับรถพยาบาลฉุกเฉินตลอดเวลา
ทั้งนี้ จากสถิติของ สพฉ.ที่จัดเก็บในขั้นตอนการนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตจากจุดเกิดเหตุเพื่อไปรักษาต่อที่ รพ.พบว่ายังเป็นไปอย่างล่าช้า โดยผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตต้องเสียชีวิต ช่วงก่อนถึง รพ.มากกว่าร้อยละ 20 สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเป็นไปอย่างล่าช้า คือสภาพปัญหาการจราจรติดขัดและความรู้ความเข้าใจเรื่องการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินของประชาชนที่ยังมีไม่เพียงพอ ซึ่งการช่วยกันหลีกทางให้นั้นแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ถือเป็นการต่อชีวิตให้ผู้ป่วยฉุกเฉินที่นอนรอการส่งต่อไปรักษา ที่ รพ.ได้ดีที่สุด
“หลายคนตั้งคำถามว่าการออกเหตุแต่ละครั้ง มีผู้ป่วยฉุกเฉินจริงหรือไม่ที่อยู่บนรถพยาบาลนั้นๆ ขอยืนยันว่ามีจริง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยร้ายแรง อาทิ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน อุบัติเหตุที่รุนแรง หรือเป็นรถฉุกเฉินที่กำลังเร่งไปรับผู้ป่วย หากประชาชนทั่วไปได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนขอทางจากรถพยาบาลฉุกเฉินควรหลีกทางให้ เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าบนรถคันนั้นจะเป็นญาติพี่น้องเราหรือไม่ และควรเป็นเรื่องที่ปฏิบัติทันทีโดยไม่ต้องคิดว่ามีกฎหมายบังคับหรือไม่ แต่ควรปฏิบัติให้กลายเป็นจิตสำนึก”เลขาธิการ สพฉ. กล่าว
นพ.อนุชา ยังแนะนำแนวทางในการหลีกทางให้กับรถพยาบาลฉุกเฉิน ว่าตามหลักสากลนั้น 1.เมื่อเห็นสัญญาณไฟและได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนมักตกใจทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นก่อนอื่นผู้ขับขี่ควรตั้งสติ 2.พยายามมองกระจกหลังเพื่อกะระยะของรถพยาบาลที่วิ่งมา3.เมื่อพิจารณาปริมาณรถทั้งซ้ายและขวาที่อยู่ใกล้แล้วพบว่าไม่มีอันตราย สามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรถและเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลทันที
4.หากไม่สามารถหลีกทางได้ด้วยเพราะสภาพรถที่หนาแน่นและมีอันตรายให้หยุดชะลอรถให้นิ่งเพื่อให้รถพยาบาลฉุกเฉินหาทางวิ่งผ่านไปให้ได้ 5.เมื่อรถพยาบาลฉุกเฉินวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด 6.กรณีรถติดและรถพยาบาลฉุกเฉินอยู่ด้านหลังพอดีให้พิจารณาว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวาดี ถ้าไม่มีใครหลีกทางให้ให้ผู้ขับขี่เลือกว่าจะหลบทางไหนและเปิดไฟเลี้ยวเพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ได้แซงผ่านไปได้สะดวก .-สำนักข่าวไทย