ประชาธิปัตย์ 25 ม.ค.- อภิสิทธิ์ แนะให้มีเจ้าภาพทำเรื่องปรองดอง เพื่อความเป็นเอกภาพ ยืนยัน เห็นด้วยกับนายกฯ ที่ต้องยึดหลักกฎหมาย ส่วนนโยบาย 66/23 เอามาประกอบได้ แต่ต้องไม่ใช้เป็นหลัก เพราะคนละสถานการณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การนำเสนอแนวทางสร้างความปรองดอง ว่า ได้รับการประสานจากคณะอนุกรรมาธิการสร้างความปรองดอง ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จึงได้นัดสมาชิกพรรคมาพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ วันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) เพื่อรวบรวมความเห็นที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อจะสะท้อนจุดยืนของพรรคในระดับหนึ่ง นำเสนอไปยัง สปท.
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ต้องการเห็นความปรองดองที่ยั่งยืน ไม่ขัดกับหลักของกฎหมาย และดีใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คิดในแนวทางเดียวกัน และต้องการให้มองไปข้างหน้า เพราะความขัดแย้งทางการเมืองเคลื่อนไปข้างหน้าตลอดเวลา จึงไม่ควรมองเฉพาะเรื่องตัวบุคคล และหากจะพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรม ก็ควรพูดถึงประชาชนทั่วไป ความผิดเล็กน้อย และความผิดในกฎหมายพิเศษ และควรนำผลการศึกษาในอดีตมาศึกษา รวมถึง ข้อเสนอนำแนวนโยบาย 66/23 ก็สามารถนำมาประกอบความเห็นและศึกษาได้ แต่ไม่ควรนำใช้ทั้งหมด เพราะคนละสถานการณ์กัน
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เห็นว่า การทำงานเรื่องความปรองดองควรจะมีเจ้าภาพเดียว ที่ทำหน้าที่ประสานงานรวบรวมความเห็น เพื่อทำไปในทิศทางเดียวกัน หรือ เพื่อความเป็นเอกภาพ ไม่ต้องการให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน เช่น รัฐบาลให้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เป็นหลัก เมื่อ สปท.รับฟังความคิดเห็นมา ก็ส่งไปให้ ป.ย.ป. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนายกล้าณรงค์ จันทิก ที่ทำกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการอำนวยความยุติธรรมต่าง ๆ เพื่อมาแก้ความขัดแย้ง ก็ผลการศึกษาไปให้ ป.ย.ป. เพื่อไปรวมอยู่ที่เดียวกัน และทำงานร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เห็นว่าจำเป็นจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมก็ทำในจุดเดียว นอกจากนี้ ต้องระมัดระวังในการนำเสนอความเห็น และควรให้ตกผลึกก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ และเดินหน้าไม่ได้
“ผมไม่อยากให้เห็นว่า มีรายงานฉบับสมบูรณ์ของ สปท. มีกฎหมายที่ร่างเสร็จเรียบร้อยของ สนช. แต่เป็นคนละเรื่องกับการทำงานของ ป.ย.ป.อีก งานก็จะไม่สำเร็จ อยากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจไปเลย ดังนั้นถ้าบอกว่าคราวนี้เอาจริง ซึ่งผมได้ยินหลายท่านบอกว่าคราวนี้เอาจริง ควรกำหนดเจ้าภาพที่ชัดเจนไปเลย ไม่อย่างนั้นจะมี 3-4 ฉบับ และมีปัญหาต่อเนื่อง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย