คาดตรุษจีนปีนี้เงินสะพัดสูงสุดในรอบ 10 ปี

กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – ม.หอการค้าไทย ประเมินตรุษจีนปีระกาเงินสะพัดสูงสุดในรอบ 10 ปี กว่า 54,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 ทั้งการใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ ทำบุญ แตะเอี๊ยะ เพิ่มขึ้นทั้งหมด


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบว่า จะมีเงินสะพัดตรุษจีนปี 2560  สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่การสำรวจเมื่อปี 2550 อยู่ที่ 54,927.16 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.5 ที่มีเงินสะพัด 52,561.88 ล้านบาท โดยประชาชนมองว่าตรุษจีนปีนี้มีความคึกคักมากกว่าปีก่อน และประชาชนที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมีถึงร้อยละ 38 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้น และ มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเป็นค่าใช้จ่ายต่อคนในการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ 3,950.21 บาท ไปทำบุญ 1,990.93 บาท ให้แต๊ะเอีย 3,954.15 บาท   การใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่ดีขึ้นมาจากกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก ที่ได้ผลบวกจากราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น และ การส่งออกที่ดีขึ้น ส่วนคนที่ใช้จ่ายน้อยลงมีเพียงร้อยละ 17.8 ซึ่งเป็นสถิติที่ดีสุดในรอบ 6 ปี

ส่วนการใช้จ่ายตรุษจีนหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ พบว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยประมาณร้อยละ 10 แต่การใช้จ่ายตรุษจีนไม่ได้ลดลงมาก เนื่องจากราคายางพารา และ ปาล์มน้ำมันปรับตัวดีขึ้น การท่องเที่ยวดีขึ้น ส่งผลให้รายได้ของประชาชนในภาคใต้สูงขึ้น ทำให้การใช้จ่ายซื้อเครื่องเซ่นไหว้เป็นปกติ


นอกจากนี้คาดว่ายังมีเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท โดยเป็นเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวจีน 10,000 ล้านบาท หลังจากผลกระทบจากทัวร์ศูนย์เหรียญลดลง ช่วยสนับสนุนบรรยากาศเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ให้คึกคักขยายตัวได้ร้อยละ 3-3.3 จากที่ไตรมาส 4/59 ขยายตัวร้อยละ 3.2  ส่วนเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.6

อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ที่คาดว่าแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจะแผ่วลง เพราะไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว รัฐบาลควรเร่งเบิกจ่ายงบกลางปีเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคเอกชนยังรอความชัดเจนหลังจากที่สหรัฐยกเลิกการตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอชีย-แปซิฟิก หรือ ทีพีพี โดยต้องจับตาการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย กับสหรัฐ ว่าจะมีเจรจาอย่างไรบ้าง พร้อมกันนี้มองว่าการที่สหรัฐยกเลิกทีพีพีไม่ได้มีผลให้ไทยสูญเสียโอกาสในการดึงดูดการค้าการลงทุน แต่มองว่าเป็นโอกาสให้ไทยปรับโครงสร้างการผลิต เพราะที่ผ่านมาไทยไม่ได้เป็นสมาชิกทีพีพี ทั้งนี้หอการค้าไทยคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 ตามที่ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์.- สำนักข่าวไทย

 


 

 

 

 

 

 

ส่งจาก iPad ของฉัน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร