ทำเนียบฯ 21 ส.ค. – “พิชัย” รองนายกฯ และ รมว.คลัง รับฟังข้อเสนอหอการค้าไทย ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการ 7 จังหวัด หวังฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่ชายแดน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับหนังสือจากนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ เกี่ยวกับข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือเยียวยา กรณีผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา นับเป็นประเด็นเร่งด่วน รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขอย่างเป็นระบบ เตรียมจัดเวิร์กช็อป เชิญเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจน ทั้งการดูแลแรงงานที่มีใบอนุญาตให้สามารถพำนักและทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเร่งตรวจสอบและนำแรงงานยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง และยังมีแผนเปิดรับแรงงานเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานในหลายภาคส่วน
โดยภาคเอกชน เสนอมาตรการ ดังนี้ 1.มาตรการช่วยเหลือเยียวยาด้านแรงงานและการจ้างงาน ขอให้ลดเงินสมทบประกันสังคม สนับสนุนแรงงานทดแทนจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา รวมถึงประเทศอื่น ๆ เช่น บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น และจัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานจังหวัด เพื่อบรรเทาภาระผู้ประกอบการ ดูแลแรงงานทั้งไทยและต่างด้าว และทำให้ระบบการจ้างงานเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และยั่งยืน


2.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการสนับสนุนหรืองบประมาณแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคีเอกชน สำหรับการจัดสัมมนาและศึกษาดูงานในพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว 3.มาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียม ขอให้พิจารณามาตรการลดภาษีในส่วนของภาษีท้องถิ่น (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย ฯลฯ) รวมทั้งพิจารณาใช้มาตรการภาษีเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการท่องเที่ยวว่าจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกำหนดมาตรการเชิงรุกในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสนับสนุนการจัดสัมมนาและกิจกรรมสำคัญใน 7 จังหวัดเป้าหมาย เพื่อสร้างบรรยากาศคึกคัก กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน สำหรับการดำเนินการด้านภาษี รัฐบาลจะพิจารณาเป็นรายมาตรการ เพื่อให้สามารถปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยยึดหลักความสมดุลระหว่างการดูแลรายได้ของรัฐและการบรรเทาภาระของประชาชน
นายพิชัย ย้ำว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในทุกระดับ ลดความคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติ และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลพร้อมดูแล แก้ไขปัญหา และขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ อย่างจริงจัง.-515- สำนักข่าวไทย