วิษณุ แนะใส่มาตรฐานจริยธรรม ในกฎหมายป.ป.ช.

visanu - 25-5-2558 18-33-50สโมสรทหารบก วิภาวดี 1 ก.พ. – วิษณุ แนะใส่มาตรฐานจริยธรรมของศาล รธน. เป็นกฎหมาย ป.ป.ช. เพื่อให้บังคับใช้ได้จริง ด้านประธาน ป.ป.ช.มั่นใจเวลาทำงานจะเป็นเครื่องการันตีการทำงานของ ป.ป.ช.ให้มีจริยธรรมมากขึ้น ด้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อการมีจริยธรรมช่วยให้ปราบปรามการทุจริตได้


ผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดสัมมนาเรื่อง “เหลียวหน้า แลหลัง จริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ” โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเสวนาว่า ขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในระหว่างการแก้ไขตามพระราชอำนาจ ที่มีข้อสังเกตพระราชทานมา ซึ่งนายกฯได้รับการพระราชทาน ร่างรัฐธรรมนูญคืนมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ โดยกระบวนการแก้ไขใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว  ซึ่งเป็นการแก้ในบางมาตราที่ในหลวงทรงพระราชทานข้อสังเกตบางประเด็นเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการปรับลดจำนวนมาตรา หลังจากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ อีกรอบ ก่อนวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะมีเวลา 90 วัน ในการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญลงมา สาเหตุที่ต้องเริ่มนับใหม่ เพราะตอนที่นายกรัฐมนตรี ได้รับคืน ก็รับคืนทั้งฉบับ ไม่ได้รับคืนบางส่วน จึงต้องเริ่มนับ 90 วันใหม่ ซึ่งท่านอาจจะโปรดเกล้าฯ ก่อนครบกำหนดก็ได้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ โรดแมปก็จะเริ่มนับหนึ่งตามที่ได้ระบุไว้ ในเรื่องของจริยธรรมตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น จะเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องเชิญผู้แทนองค์กรอิสระทั้ง 5 องค์กร ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมการสิทธิมนุษยชน มาร่วมกันทำมาตรฐานจริยธรรมให้เสร็จภายใน 1 ปี  ถ้าหากไม่เสร็จตามกรอบระยะเวลา ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด ซึ่งจะทำแบบเร่งรีบไม่ได้ด้วย


“ทั้งนี้มาตรฐานจริยธรรม จะเป็นดาบคืนสนอง ใช้กับพวกเขาเอง  อีกทั้งจะต้องใช้กับ ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องรับความเห็นจากพวกเขาด้วย ผมเชื่อว่ามาตรฐานจริยธรรมที่จะออกมานี้ จะเป็นแบบให้กับเจ้าหน้าที่รัฐอื่น ๆ ทั่วประเทศ เท่านั้นไม่พอ ยังมีมาตรา 76 ที่ได้ระบุว่า รัฐจะต้องกำหนดมาตราฐานทางจริยธรรมขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับหน่วยภายใต้การกำกับของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรมหาชน เพื่อนำไปทำประมวลจริยธรรมของแต่ละหน่วยงานอีกที” นายวิษณุกล่าว

นายวิษณุ กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกให้ฉายาว่าเป็นฉบับปราบโกง ซึ่งมิติหนึ่งของฉายานั้น ก็เป็นเรื่องของจริยธรรม ที่ถูกพูดถึงมากกว่าในรัฐธรรมนูญปี 50 แต่ในเมื่อมีการกำหนดให้ทำมาตรฐาน หรือประมวลจริยธรรมขึ้นมาแล้วองค์กรที่ขับเคลื่อนบังคับให้ใช้จะต้องพิจารณาต่อไปว่าจะเป็นใคร ซึ่งจะไม่ได้ขึ้นอยู่ที่องค์กรใดองค์กรหนึ่งแล้ว ส่วนอนาคตจริยธรรมจะมีหน้าตาทิศทางเป็นแบบไหนนั้นทั้งหมดไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ดังนั้นจึงสามารถกำหนดได้ในภายหลังว่าจะขับเคลื่อนส่วนนี้อย่างไรและจะกำหนดโทษของการละเมิดจริยธรรมไว้อย่างไรต่อไป

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่จะทำให้มาตรฐานทางจริยธรรม มีความศักดิ์สิทธิ์ หรือมีผลบังคับใช้ได้จริงนั้น จะต้องมีการออกเป็นกฎหมายของ ป.ป.ช. ให้ใช้ร่วมพิจารณา โดยจะต้องออกเป็นลักษณะของการกำหนดโทษ หรือต้องให้เป็นหน้าที่ของศาลหนึ่งศาลใด ในการพิจารณาความผิดแต่ละประเภท ในส่วนของมาตรฐานจริยธรรมที่รัฐบาลจะต้องกำหนดนั้น อาจจะมีการแก้ไข พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการ ในหมวดวินัย หากไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม ก็จะมีโทษความผิด ซึ่งอาจจะเป็นความผิดธรรมดาหรือฐานความผิดวินัยร้ายแรงก็ได้ ตนเชื่อว่าถ้ากำหนดเช่นนี้ จะทำให้ประมวลจริยธรรมมีผลบังคับใช้จริง


พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปรายปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า แต่เดิมการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่จะส่งเรื่องที่ได้กลั่นกรองแล้วนั้นมาให้กับป.ป.ช.พิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงต่อไป แล้วนำเข้าที่ประชุมเมื่อคณะกรรมการมีมติถอดถอนก็จะส่งให้สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) พิจารณาถอดถอนต่อไป ซึ่งรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมามีการถอดถอนไม่มากนัก และในรัฐบาลนี้มีสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ถอดถอนไปแล้ว 1 ราย และในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ ผู้ตวจการแผ่นดิน ไม่ได้มีหน้าที่คัดกรองเรื่องจริยธรรมให้แก่ป.ป.ช.แล้ว โดยป.ป.ช.จะต้องรับเรื่องเอง และ เมื่อมีมติจากคณะกรรมการป.ป.ช.ว่าถอดถอน ก็ไม่ต้องส่งเรื่องให้กับ ส.ว.พิจารณาแล้ว แต่จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาแทน โดยผู้ที่ถูกร้องเรียนความผิดทางจริยธรรมจะต้องพักจากราชการจนกว่าจะมีมติเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง หากมีมติถอดถอนก็ต้องออกจากตำแหน่ง เป็นต้น

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับเรื่องการกำหนดมาตรฐานจริยธรรมขององค์กรอิสระ ตามมาตรา 76 ในรัฐธรรมนูญนั้น ทาง ป.ป.ช. ได้เขียนแก้ไขไว้ในร่างพระราชบัญญัติแล้ว โดยกำหนดกรอบเรื่องของระยะเวลาในการพิจารณาข้อร้องเรียนแต่ละกรณีว่ามีมูลมากพอหรือไม่  ในระยะเวลา 6 เดือน และอาจขอขยายได้อีก 3 เดือน หากมีเหตุจำเป็น ดังนั้นการแสวงหาความจริงจะมีระยะเวลาที่ชัดเจน ป.ป.ช.จะให้ความยุติธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา เพราะถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยจะใช้เวลาในการไต่สวนคดีนั้น ๆ 2 ปี และสามารถขอขยายเวลาได้ หากมีเหตุจำเป็น และหากมีมูลคณะกรรมการป.ป.ช จะมีมติส่งฟ้องให้ศาลฎีกาพิจารณาถอดถอนต่อไป

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า สิ่งที่ ป.ป.ช.มั่นใจในมาตรฐานจริยธรรม เมื่อมีการกล่าวหาข้าราชการที่ละเมิดจริยธรรมร้ายแรงนั้นคือตัวกรอบเวลาการทำหน้าที่ ที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นเครื่องการันตีถึงกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใสและยุติธรรมให้กับสังคมได้ และขณะนี้ป.ป.ช.มีพนักงงานไต่สวนและเจ้าหน้าที่ชำนาญการ กว่า 900 คน ซึ่งหากเราเคลียร์คดีที่ค้างอยู่เดิมได้ก็จะถือเป็นองค์กรที่มีคุณภาพและไม่เกินความสามารถที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสยุติธรรมได้

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทำผิดจริยธรรมเอง จะมีคณะกรรมการผู้ไต่สวนอิสระเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบ และผู้ถูกกล่าวหาต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่และไปสู่การพิจารณาถอดถอนที่ศาลฎีกาเช่นเดียวกับผู้ถูกร้องเรียนในหน่วยงานต่าง ๆ โดยไม่มีการละเว้น

ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การมีจริยธรรมจะช่วยให้สามารถปราบปรามการทุจริตได้  เพราะการทุจริตในประเทศไทย เปรียบเหมือนโรคมะเร็งร้าย ที่คอยกัดกินประเทศมานาน ส่วนตัวอยากให้ แต่ละองค์กรกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครกล้าทำผิด เช่น หากทำผิดควรมีการลงโทษทางวินัย ขั้นต้น ไปจนถึง ผิดวินัยขั้นร้ายแรง นั่นคือ การไล่ออก และเรื่องจริยธรรม ควรปลูกฝังในขั้นอุดมการณ์เพื่อให้คนส่วนใหญ่นึกถึงประเทศเป็นหลัก ยกตัวอย่าง เช่น หากมีการทำผิดอาญาในต่างประเทศ แต่กลับไม่มีความผิดในส่วนของอำนาจไทย ก็ควรให้ถือว่า ผิดจริยธรรมร้ายแรง และสร้างความเสื่อมเสียให้ประเทศชาติด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]