“ชาญชัย” จี้ไม่ให้ไต่สวนลับ “วิษณุ” ปมรักษาทักษิณชั้น 14

ศาลฎีกา 25 ก.ค.- “ชาญชัย” ขอไต่สวน “วิษณุ” 30 ก.ค. ปมรักษา “ทักษิณ” ชั้น 14 ไม่ให้ไต่สวนลับ ด้าน “หมอวรงค์” ลั่น คดีใกล้ตอกฝาโลงแล้ว ขณะที่ “สมชาย” ยื่นศาลฯ เพิ่ม 2 เรื่อง พบพิรุธไม่ได้รักษาตัวห้อง 1407 ตามที่ยื่นศาล บอกเป็นผู้มีอิทธิพลจะอ้างไม่เกี่ยวไม่ได้


นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และ นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีการเข้ารับโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายชาญชัย เผยว่า วันนี้แพทยสภามาตามคำสั่งศาล ให้การชัดเจน ว่าศาลมีการซักถามถึงเอกสารและข้อชัดเจน ให้พยานของนายทักษิณสอบถามได้เต็มที่ แต่การถามของพยานนั้นทำให้ความจริงชัดขึ้น ว่าพยานกำลังบอกว่านายทักษิณผิดในส่วนไหน แต่ในความจริงได้เห็นองค์ความรู้อย่างหนึ่ง คือข้อกฎหมาย ข้อเท็จกระบวนการยุติธรรม ความถูกต้องก็ดี ได้ปรากฏชัดให้ประชาชนเรียนรู้ไปด้วยในตัว สิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองความถูกต้องอยู่ตรงไหน และจะจบสิ้นในอีกไม่เกิน 10 วันนี้ ก็คาดหวังให้ความจริงปรากฏและศาลก็ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ส่วนวันนี้ศาลก็ได้มีการรับเรื่องจากนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ที่ได้ร้องว่า นพ.วรงค์และตนได้มีการไลฟ์สดในบริเวณศาล โดยขอยืนยันว่าไม่ได้ไลฟ์สดแต่อย่างใด ซึ่งศาลก็ได้ยกคำร้อง ส่วนนัดครั้งหน้าที่จะมีนายวิษณุ เครืองาม เข้าให้ข้อมูลกับศาลนั้นไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการพิจารณาลับ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างแรง ซึ่งนายวิษณุอย่าสร้างเงื่อนไขเรื่องนี้เด็ดขาด ถ้าหากจะมาให้ข้อมูล หรือนายทักษิณจะมีข้อตกลงอะไรก็ตาม ทั้งนี้ตนและพวกก็ไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจของศาล เชื่อในกระบวนการยุติธรรมและเคารพศาลอยู่แล้ว

ส่วนสัปดาห์หน้าที่นายวิษณุจะมาให้ข้อมูลกับศาลนั้นจะเป็นคุณหรือเป็นโทษ อยู่ที่ศาลจะซักถามเรื่องอะไร ถ้าจะมองว่าเป็นการให้คุณให้โทษกับนายทักษิณ ก็ให้ทนายของนายทักษิณถามให้เต็มที่ และคำวินิจฉัยของแพทยสภาก็ออกมาชัดเจนไม่ได้มีการลำเอียง รวมถึงไม่ได้ไปลงโทษสุ่มสี่สุ่มห้า ถือว่ายังเบาไปสำหรับการกระทำดังกล่าวว่าไปช่วยคนหนึ่งที่ทำให้กระบวนการของแพทยสภาเสียหาย รวมถึงกระบวนการยุติธรรม และความเสียหายต่อประเทศ ถือเป็นเรื่องหนักมาก ศาลต้องมีคำวินิจฉัยออกมาให้ชัดเจน

ด้าน นพ.วรงค์ เผยว่า วันนี้ศาลได้มีการซักถามแพทยสภา 3 คน ในข้อกล่าวหาที่สังคมสงสัยว่า นักโทษรายนี้ป่วยหนักหรือป่วยวิกฤต ต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจกว่า 180 วันหรือไม่ ขณะนี้กระบวนการพิจารณาตอกฝาโรงแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างมีคำตอบจบไปแล้ว แยกเป็น 3 กรณีคือ การส่งตัวในคืนวันที่ 22 ส.ค.2566 ในข้อหาที่สงสัยว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า ไม่ได้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ถึงแม้จะมีประวัติ แต่ไม่ได้วิกฤต เพราะที่ส่งตัวมานั้นมาด้วยโรคหัวใจ แต่แพทย์ผู้รักษากลับเป็นแพทย์สมอง รวมถึงการอ้างเรื่องการหอบแต่ไม่มีการเอ็กซเรย์ปอด และปัญหาเรื่องโรคหัวใจก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเรื่องวิกฤติเร่งด่วนที่จะต้องอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนประเด็นนิ้วล็อคนั้นได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่านิ้วล็อคไม่ใช่วิกฤตฉุกเฉิน ที่จะต้องผ่าตัดโดยเร่งด่วน คนไข้สามารถนอนอยู่ที่บ้านแล้วมาผ่าตัดได้ และการผ่าตัดนิ้วล็อคเป็นการผ่าตัดเล็กไม่ได้ผ่าตัดใหญ่ไม่มีความจำเป็นต้องดมยาสลบ ส่วนใหญ่เป็นการฉีดยาชาเฉพาะที่ และในทางปฏิบัติผ่าตัดเรียบร้อยสามารถไปรักษาแผลที่บ้านได้ ส่วนประเด็นสุดท้ายคือเรื่องเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด ในภาพรวมก็อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุก็ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การผ่าตัดที่มีการส่องกล้องไม่ได้เป็นเรื่องฉุกเฉินที่ต้องผ่าตัดในทันทีทันใด สามารถนัดหมายมาผ่าตัดได้ ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปก็ให้พักอยู่ที่บ้านเมื่อถึงเวลาที่พร้อมก็นัดหมายมาที่โรงพยาบาล และนัดผ่าตัด แต่การผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบ และถ้าคนไข้มีประวัติเรื่องโรคหัวใจ ที่ไม่ได้วิกฤตก็สามารถใช้ยาได้ กินยาแล้วก็นัดหมายการผ่าตัด จากภาพรวมพยายามพูดถึงเรื่องวิกฤตฉุกเฉิน แม้นักโทษจะมีโรคเยอะ แต่ถือว่าเป็นโรคเรื้อรังที่ให้กินยาต่อเนื่องได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ถ้าหากคนไข้มีอาการกำเริบขึ้นมาก็จะเป็นเงื่อนไขที่จะนอนโรงพยาบาล แต่ข้อมูลที่เราได้ฟังมาโรคหลายหลายโรคไม่ได้กำเริบที่ต้องนอนโรงพยาบาลต่อเนื่อง ถึง 180 วัน และวันนี้แพทยสภาซึ่งถือเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มายืนยันการเจ็บป่วยของนายทักษิณ ถือว่าเป็นการตอกฝาโลง


นายแพทย์ตุลย์ เผยว่าจากวันนี้ได้ฟังพยานที่เป็นตัวแทนของแพทยสภา สรุปได้ว่าจบเห่ แต่ประเด็นสำคัญที่ทุกคนกำลังติดตามอยู่ ได้จากราชทัณฑ์ ได้จำคุกนายทักษิณตามหมายขังแล้วหรือไม่ การที่นำตัวทักษิณออกไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจโดยอ้างกฎกระทรวงในการส่งตัวผู้ป่วย ไปรักษานอกเรือนจำ ถ้าเกิดไม่มีหลักฐานอะไรเลยว่าต้องอยู่นอกเรือนจำ แปลว่าจะไม่มีการจำคุกตามหมายขัง คือต้องกลับไปที่เรือนจำตามหมายศาล และวันนี้ทำให้ทราบว่าใบคำสั่งแพทย์ ทำให้ทราบว่าไม่มีโรคหัวใจเฉียบพลันฉุกเฉินจนต้องส่งมาโรงพยาบาลตำรวจ ตามที่พยานคนแรกได้เห็นเหตุการณ์ ที่ได้ส่งตัวนายทักษิณมานอกเรือนจำ เป็นที่ปรากฏว่าไม่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ที่เกิดจากเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ไม้มีการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ด้านนายสมชาย เผยว่า วันนี้มีการส่งเอกสารเพิ่มเติมอีกสองส่วน ที่ได้มาจากแพทย์ผู้หวังดีและศาลได้เรียกเอกสารนั้นมาแล้ว คือใบเสร็จรับเงิน 2,400,000 บาท เป็นห้อง 1404 ไม่ใช่ห้อง 1407 ตามที่พยานจากกรมราชทัณฑ์เบิกความ และในหลักฐานก็บอกว่าใบที่จ่ายเงินและแพทย์ผู้รักษานายทักษิณที่บอกว่าอยู่ 179 วันนั้นอยู่ในห้อง 1404 และเป็นหลักฐานที่ให้ศาลออกไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่าห้อง 1407 มีคนอื่นพักอยู่ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2566 จนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ดังนั้นพยานที่มาให้การในศาล น่าจะเป็นข้อพิรุธที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ไต่สวนเพิ่มว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมทั้งหมดที่อ้างว่าคุมตัวนายทักษิณอยู่ห้อง 1407 ทั้งพัสดีผู้บัญชาการ ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ที่มาตรวจ ที่บอกอยู่ห้อง 1407 นั้น เป็นพยานที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ และถูกหักล้างได้ หลักฐานนี้ถือเป็นหลักฐานที่มีรายชื่อคนที่อยู่ ห้อง 1407 และบอกว่านายทักษิณอยู่ห้อง 1404 ส่วนใบเสร็จที่ได้มีการส่งไปแล้วนั้นเป็นประโยชน์ในการที่ศาลได้เรียกมา ที่มีการตรวจสอบว่ามีแต่ค่าห้องเป็นส่วนใหญ่ และตนคิดว่าคดีนี้จบแล้วถึงแม้ว่าพยานคนต่อไปจะให้การในเรื่องการเข้าเรือนจำ การขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นเรื่องรอง แต่เรื่องการบังคับโทษของนายทักษิณนั้นชัดเจนว่ามีประเด็นปัญหาในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ พยาบาลเวร พัศดีเวร ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้คุม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปลัดกระทรวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจนั้น จะเป็นในเรื่องของจรรยาบรรณของแพทย์

“สรุปถ้านายทักษิณมีอิทธิพล ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ประพฤติผิดกฎหมายตามมาตรา 157 นายทักษิณเข้าสู่ตัวการร่วมเป็นผู้สนับสนุนหรือเป็นผู้ทำให้เกิดได้ เพราะ นายทักษิณคือพ่อของนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี มีอิทธิพลต่อคนทั้งหมด จะอ้างว่าไม่เกี่ยวไม่ได้” นายสมชาย กล่าว -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]

“ชัยเกษม” แถลงให้คำมั่นหากเป็นนายกฯ ยุบสภาทันที

นนทบุรี 4 ก.ย.- “ชัยเกษม” แถลงยืนยันตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน หากได้รับเลือกนั่งนายกฯ พร้อมยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลงการณ์จากบ้านพักส่วนตัว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ โดยนายชัยเกษม กล่าวว่า สวัสดีครับพี่น้องประชาชนและท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผมนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน และหากผมได้รับการลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป กระผมขอยืนยันอีกครั้งว่า นี่คือสัญญาที่ทำไว้ต่อพี่น้องประชาชน และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ โดยไม่มีข้อเปลี่ยนแปลง ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมใดๆ .-316 -สำนักข่าวไทย