ดันธุรกิจค้าส่ง-ปลีกต้นแบบหนุนโชวห่วยภูมิภาค

นนทบุรี  26 ก.พ. –  กรมพัฒนาธุรกิจการค้าประสานร้านต้นแบบในสังกัดร่วมต่อยอดการบริหารจัดการธุรกิจค้าปลีกเชิงลึก สร้างเทคนิคให้ร้านโชวห่วยบริหารจัดการธุรกิจของตนเองด้วยความเป็นมืออาชีพ พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นตัวช่วยบริหารร้านค้าให้ค้าขายได้คล่องตัว สู้กับธุรกิจรายใหญ่ได้อย่างทัดเทียม


นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ได้เร่งต่อยอดธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ และร้านค้าปลีกโชวห่วยเครือข่ายซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพทันกับกระแสเทคโนโลยีตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และทันต่อแนวโน้มการค้าการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พร้อมปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์และการทำธุรกิจของร้านค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคให้มีความทันสมัย สามารถแข่งขันและสร้างโอกาสที่เหนือกว่าในสถานการณ์แข่งขันที่รุนแรง ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ปรับตัวขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เข้าถึงพื้นที่ในภูมิภาค โดยใช้กลยุทธ์ปรับร้านให้มีขนาดเล็กลง เพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคสมัยใหม่ หากร้านค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กไม่สามารถปรับตัวได้ทันก็อาจเกิดการล้มหายตายจากของธุรกิจไปได้และจะส่งผลอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจฐานรากของประเทศตามมา

ทั้งนี้  ที่ผ่านมาจัดอบรมเสริมสร้าง ‘เทคนิคการบริหารจัดการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกอย่างมืออาชีพ’ โดยประสานร้านค้าต้นแบบในการส่งเสริมของกรมฯ ที่อยู่ในพื้นที่ให้เชิญชวนเครือข่ายเข้าร่วมพัฒนาธุรกิจ    ซึ่งจัดอบรมไปแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 จังหวัดน่าน มีร้านนราไฮเปอร์มาร์ท และร้านค้าปลีกในเครือข่ายเข้าร่วม 136 ราย ครั้งที่ 2 จังหวัดสิงห์บุรี มีร้านไชยแสงดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และร้านค้าปลีกในเครือข่ายเข้าร่วม 77 ราย และครั้งที่ 3 จังหวัดระยอง มีห้างแสงทองซูเปอร์เซ็นเตอร์ และร้านค้าปลีกในเครือข่ายเข้าร่วม 97 ราย และจะกำหนดลงพื้นที่อีก 2 ครั้งในภาคใต้ จังหวัดตรัง วันที่ 25 มีนาคม 2560 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าการลงพื้นที่ทั้ง 5 ครั้งนี้จะมีร้านค้าปลีกโชวห่วยเครือข่ายในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นกว่า 500 ราย


“ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกถือเป็นหัวใจของระบบเศรษฐกิจภูมิภาค ปัจจุบันมีร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบ ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ 114 ร้านค้าทั่วประเทศ และในจำนวนนี้มีร้านค้าปลีกโชวห่วยเครือข่ายมากกว่า  20,000 ร้าน หากร้านในจำนวนนี้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งก็จะกลายเป็นกลไกและช่องทางสำคัญที่จะใช้ขยายตลาดทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชนหรือสินค้าเกษตรในท้องถิ่นได้ รวมถึงจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจฐานรากไปโดยปริยาย” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน