นนทบุรี 5 มี.ค. – นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมอนุญาตให้คนต่างด้าว 26 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเยอรมนี ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 370 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 513 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ และองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 5 ราย มีเงินลงทุน 54 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า และคู่ค้า 8 ราย เงินลงทุน 151 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเยอรมนี ธุรกิจบริการเป็นสำนักผู้แทน 3 ราย เงินลงทุน 9 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และอิตาลี ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ / คู่สัญญาเอกชน 4 ราย เงินลงทุน 88 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี และสิงคโปร์ และธุรกิจนายหน้า / ค้าปลีก / ค้าส่ง 6 ราย เงินลงทุน 68 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น มาเลเซีย และออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เดือนกุมภาพันธ์ 2560 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 73 ขณะที่เงินลงทุนลดลง 67 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 15 และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 6 ราย คิดเป็นอัตราร้อยละ 18 ขณะที่มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 205 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 124 เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ 2560 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริการออกแบบ จัดหาวัสดุและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบเครื่องจักร และระบบการทำงานต่าง ๆ สำหรับโครงการก่อสร้างสถานีรับ-จ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลวส่วนขยาย ขนาด 1.5 ล้านตันต่อปี ณ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง สำหรับในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2560 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต 41 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 807 ล้านบาท ขณะที่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2559 คนต่างด้าวได้รับอนุญาต 63 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,242 ล้านบาท ซึ่งปี 2559 คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย 352 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,443 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย