นนทบุรี 27 เม.ย. – กระทรวงพาณิชย์ไฟเขียวต่างชาติลงทุนไทยเดือนเมษายน 19 ราย เงินลงทุน 380 ล้านบาท จ้างคนไทย 539 คน
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ประชุมฯ อนุญาตให้คนต่างด้าว 19 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเยอรมนี ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 380 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 539 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ และองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 7 ราย เงินลงทุน 163 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ และญี่ปุ่น, ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า 1 ราย เงินลงทุน 4 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศเยอรมนี, ธุรกิจบริการเป็นสำนักผู้แทน 5 ราย เงินลงทุน 16 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น และมาเลเซีย, ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ/ภาคเอกชน 3 ราย เงินลงทุน 103 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศ เยอรมนี อินเดียและหมู่เกาะเคย์แมน และธุรกิจค้าปลีก 3 ราย เงินลงทุน 94 ล้านบาท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น และสวีเดน
ทั้งนี้ เดือนเมษายน 2560 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลงจากเดือนก่อน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 32 ขณะที่เงินลงทุนลดลง 200 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34 และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่าธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 17 ราย คิดเป็นร้อยละ 47 ขณะที่มีเงินลงทุนลดลง 514 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57 เนื่องจากเดือนเมษายน 2559 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น บริการออกแบบจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบสื่อสารสำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ บริการออกแบบจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม และธุรกิจการผลิตแป้งจากข้าวให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น
ส่วนช่วง 4 เดือนแรกปี 2560 (ม.ค.-เม.ย.) คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต 88 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,767 ล้านบาท ขณะที่เดือนมกราคม – เมษายน 2559 คนต่างด้าวได้รับอนุญาต 131 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,972 ล้านบาท ซึ่งปี 2559 (ม.ค.- ธ.ค.) คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในไทยทั้งสิ้น 352 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,443 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย