ก.แรงงาน ให้อดีต อธิบดี กพร. ชดใช้ค่าเสียหาย 80 ล้าน

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.-ก.แรงงาน ให้ “ประไพศรี’อดีตรองอธิบดี กพร.ชดใช้ค่าเสียหาย 80 ล้านบาท หลังศาลสั่งจำคุก 50 ปี เหตุฮั้วประมูลโครงการปรับปรุงอาคารกรม


 

จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  มีคำสั่งพิพากษาจำคุกนางประไพศรี  เผ่าพันธุ์  อดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน รวม 49 กระทง กระทงละ 5 ปี เป็นเวลาทั้งสิ้น 245 ปี  เช่นเดียวกับข้าราชการผู้ใหญ่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและเอกชนผู้เสนองานอีก 13 รายให้จำคุก 30-40 กระทง รวมจำคุก 100-205 ปี แต่เนื่องกฎหมายระบุให้จำคุกสูงสุดไม่เกิน 50 ปีทำให้เหลือจำคุกคนละ 50 ปีฐานกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ราชการและ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(ฮั้วประมูล) ในการดำเนินโครงการ จัด ซื้อต้นไม้ ปรับแต่งภูมิทัศน์และอาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างปีงบประมาณ 2543-2545 จำนวน 201 งานจ้าง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 311 ล้านบาท โดยมีพฤติการณ์ช่วยเหลือเอกชนแห่งหนึ่ง ไม่มีการดำเนินการสอบราคาและแข่งขันเสนอราคากันจริงแต่ทำเอกสารเท็จของเอกชนรายอื่นมาเป็นหลักฐานแข่งขันเสนอราคา แต่ที่สังคมจับตา คือหลังศาลตัดสิน กระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้เสียหายกลับไม่ดำเนินการเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งคืนแก่รัฐนั้น


 

นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ชี้แจงว่า จากกรณีดังกล่าว  แบ่งเป็น  3 ส่วน คือ 1.ความผิดทางคดีอาญาซึ่งฟ้องกันไปแล้ว 2.ความผิดทางวินัย ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องกระทรวงแรงงานให้ออกจากราชการ และ 3.การเรียกชดใช้ค่าเสียหายของกระทรวงแรงงานในฐานะผู้เสียหาย  ซึ่งสาเหตุที่กระทรวงแรงงานไม่ฟ้องคดีทางแพ่ง เนื่องจากเป็นความผิดของข้าราชการ ที่มี พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด เป็นมาตรการอำนาจทางปกครองที่ใช้กำกับดูแลและมีความรวดเร็วในการดำเนินการเอาผิดจากข้าราชการ โดยไม่ต้องดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งที่ผ่านมากรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ตั้งคณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดไปเรียบร้อยแล้ว และมีคำสั่งให้นางประไพศรี ชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวง 80 ล้านบาท ส่วนคนอื่นลดหลั่นกันไป ตามที่กรมบัญชีกลางให้ความเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบทรัพย์เพื่อทำการยึดทรัพย์บังคับคดีต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย